• www.sbobetonline24.com เราคือตัวแทนจาก sbobet โดยตรง บริการแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด
  • ขณะนี้ได้มีกลุ่มแอบอ้างหลอกโอนเงิน เพื่อความปลอดภัย กรณีมีการเปลี่ยนบัญชี รบกวนท่านสมาชิกตรวจสอบให้ถูกต้องก่อน ยกตัวอย่าง โทรกลับมาที่ Call center สอบถามทีมงานเพื่อความถูกต้อง
  • ประกาศ!!! ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์การถอนเงิน และยึดเงินวางเดิมพัน สำหรับลูกค้าที่มีการเล่นแบบผิดปกติ หรือ ใช้โปรแกรมในการช่วยเล่น โดยที่ไม่จำเป้นต้องแจ้งล่วงหน้า
 

ประวัติ สโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้ ตำนานเรือใบสีฟ้าจากเมืองแมนเชสเตอร์

The Cityzens

The Cityzens

สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือ Manchester City Football Club เรียกสั้นๆว่า แมนซิตี้ เป็นสโมสรที่มีคนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ฉายาที่คนไทยมอบให้ คือ เรือใบสีฟ้า ถึงแม้ว่าต่างชาติจะรู้จักในนาม The Cityzens (เดอะซิติเซน) มองย้อนไปในอดีต เรียกได้เป็นทีมคู่อริร่วมเมืองกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมาไม่น้อย กลับการหวนกลับคืนมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง หลังจากลงไปอยู่ในลีกดิวิชั่น 3 และขึ้นมาเป็นแชมป์อีกครั้งอย่างสวยงาม

การเดินแห่งประวัติศาสตร์เส้นทางของสโมสรเรือใบสีฟ้า

ยุคก่อกำเนิดสร้างทีมเรือใบที่ล่องลอย [1880 – 1919]

Creat MC Team

Creat MC Team

ในปี 1880 แอนนา คอนเนลล์ กับ ผู้ดูแลโบสถ์เซนต์มากส์ เป็นริเริ่มการเล่นฟุตบอลทางตะวันออกของเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งตั้งชื่อทีมเอาไว้ว่า เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน)

ในปี 1884 ทีมเซนต์มากส์ รู้จักครั้งแรกในชื่อ City shirt

ในปี 1887 ทีม St Mark ได้วิวัฒนาการเป็น Ardwick AFC และย้ายไปใช้สนามที่ Hyde Road

ในปี 1889 เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ในบริเวณ Hyde Road ที่เหมืองถ่านหินส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 23 คน ทำให้มีรายการแข่งกระชับมิตรระหว่าง Ardwick AFC และ Newton Heath ในการสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือกองทุนภัยพิบัติ

ในปี 1892 Ardwick AFC เข้าสู่การเล่นบอลในลีกดิวิชั่นระดับ 2 ของอังกฤษ และ รวบรวมคนร่วมทีมได้อย่างครบครัน

ในปี 1893 – 1894 เกิดปัญหากับทีม Ardwick AFC ด้านการเงินอย่างหนัก ทำให้ต้องรื้อระบบการบริหารทีมครั้งใหญ่ และ ช่วงระยะเวลานี้จึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “Manchester City Football Club” จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าจุดเริ่มต้นแห่งยุคสมัยของแมนเชสเตอร์ซิตี้เริ่มต้นขึ้นในปีนี้

ในปี 1899 Ardwick AFC คว้าแชมป์เป็นครั้งแรก และ เลื่อนเข้าสู่ลีกสูงสุด หรือ ดิวิชั่น 1 ในช่วงระยะเวลานั้น

ในปี 1904 The Blue (เป็นชื่อที่ถูกเรียก ณ ช่วงเวลานั้น) ได้เป็นแชมป์ FA Cup ด้วยการเอาชนะ Bolton Wanderers ด้วยผลสกอร์ 1-0 กลายเป็น Manchester ทีมแรกที่ได้รับรางวัลใหญ่

ในปี 1906 สโมสรถูกข้อกล่าวหาของความผิดปกติทางการเงินของผู้เล่น 17 คน รวมไปถึง Billy Meredith ที่เป็นกัปตันทีมด้วย ทำให้สโมสรตกต่ำลงไปอีกครั้ง

ในปี 1910 สโมสรสามารถคว้าชัยชนะใน Division 2 ได้อีกครั้ง แต่ความยิ่งใหญ่ก็คงอยู่ได้ไม่นาน หลังจากขึ้น Division 1 ก็ตกลงในปีต่อมาทันที

ในช่วงระยะเวลาปี 1914 ถึง 1919 เกิดปมความขัดแย้งของการปกครองกลายเป็นสงครามระดับโลก World War ครั้งที่ 1 เป็นเวลาที่ยาวนาน 5 ปี

Timeline ยุคสร้างทีมเรือใบ

1892–1899 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1899–1902 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1902–1903 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1903–1909 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1909–1910 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

รอยต่อหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึง 2 [1920 – 1945]

After War World

After War World

ในปี 1920 Hyde Road ของ แมนซิตี้ ได้กลายเป็นสนามฟุตบอลประจำจังหวัดแห่งแรก

ในปี 1923 หลังจากการกลับมาเล่นฟุตบอลภายในลีก แม้ว่าการเริ่มต้นจะเกิดขึ้นอย่างเป็นไปได้สวย แต่เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สนาม Hyde Road สร้างความเสียหายอย่างหนัก อัฒจันทร์หลักเสียหายอย่างมาก ต้องย้ายไปใช้สนาม Maine Road ที่สามารถจุคนในสนามได้ถึง 85,000 คน

ในปี 1926 เป็นการบันทึกชัยชนะสูงสุดของแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ที่ Old Trafford โดยที่ซิตี้ชนะด้วยสกอร์ 6-1

ในปี 1928 การกลับมาอีกหนึ่งครั้งของแมนเชสเตอร์ซิตี้ ด้วยการคว้าแชมป์ Division 2 สร้างโลโกสโมสรครั้งแรก

ในปี 1934 Manchester City สร้างหน้าประวัติศาสตร์ มีผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 84,569 คน ในเกมที่พบกับ Stoke City แน่นอนว่ารวมถึงบัตรคนยืนดูด้วย

ในฤดูกาล 1936–37 แมนซิตี้คว้าชัยชนะใน League Championship ได้เป็นครั้ง ความสำเร็จที่โหยหามาโดยตลอด และ เหมือนช่วงเวลาเดิมๆของความยิ่งใหญ่ที่เริ่มจะแย่ลง แมนซิตี้ตกชั้น และอย่างที่คิดการประกาศสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อุบัติขึ้น

ในช่วงระยะเวลาปี 1939 ถึง 1945 เกิดปมความขัดแย้งของการปกครองกลายเป็นสงครามระดับโลก World War ครั้งที่ 2

Timeline ยุครอยต่อหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึง 2

1910–1926 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1926–1928 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1928–1938 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1938–1947 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

ยุคสมัยแห่งการปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลง [1946 – 1970]

Revolution and Change

Revolution and Change

ในฤดูกาล 1946-1947 แมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้แชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 2 อีกครั้งหลังจากกลับมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุดมีสาเหตุมาจาก Bert Trautmann  ถึงแม้ว่าจะร่วงชั้นบ้างแต่ก็เพียงแค่ 2 ครั้งภายใต้การเฝ้าเส้าเขา

ในฤดูกาล 1954-1955 แพ้ Newcastle ในการแข่งชิงแชมป์ FA Cup รอบไฟนอล 1-0 ที่เวมบลีย์

ในฤดูกาล 1955-1956 แพ้ Birmingham ในการแข่งชิงแชมป์ FA Cup รอบไฟนอล 3-1 เสมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

ในปี 1958 จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมแห่งมิวนิค จากการสูญเสียในครั้งนั้น มีผู้รักษาประตูของ Manchester City ชื่อ Frank Swift อยู่บนเครื่องบินลำนั้นด้วย

ในปี 1965 สโมสรต้องการหาจุดพัฒนา  แรกเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงโลโก้ของสโมสร และ เลือกที่จะติดติดไว้ที่หน้าอกเสื้อกับที่แขนเสื้อ

ในฤดูกาล 1965-1966 Joe Mercer และ Malcolm Allison เข้ามาเป็นผู้บริหาร Manchester City และ กลายเป็นแชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 2 อีกครั้ง

ในฤดูกาล 1967-1968 Manchester City ใช้ความพยายามจนการแข่งขันในนัดสุดท้ายเอาชนะ Newcastle และกลายเป็นแชมป์

ในฤดูกาล 1968-1969 ถึงแม้ว่าจะเอาชนะในลีกสูงสุดไม่ได้แต่ Manchester City สามารถเอาชนะ Leicester City ที่ Wembley และ กลายเป็นแชมป์ FA Cup

ในฤดูกาล 1969-1970 แมนซิตี้ได้สร้างประวัติศาสตร์ของการคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นครั้งแรกด้วยการเป็นแชมป์ League Cup และ European Cup Winners’ Cup

Timeline ยุคสมัยแห่งการปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลง

1947–1950 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1950–1951 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1951–1963 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1963–1966 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1966–1970 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่รู้จบสู่การร่วงโรย [1971 – 1999]

Fallen Down

Fallen Down

ในปี 1972 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงโลโก้สโมสรใหม่อีกครั้ง โดยการสื่อถึงความสำคัญของสิ่งต่างๆภายในเมือง ได้แก่แม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำไอร์เวลล์, เมดลอก และ อิรค์ ที่มีเรือใบแล่นอยู่บนแม่น้ำ พร้อมดอกกุหลายสีแดงที่เป็นการสื่อถึงราชวงศ์แลงแคสเตอร์ แบล็คกราวจะเป็นสีฟ้า กลายเป็นที่มาของฉายาเรือใบสีฟ้าในประเทศไทย

ในปี 1976 เป็นการเข้าชิงรายการใหญ่ กับ Newcastle United และฉลองแชมป์ League Cup อีกครั้งด้วยสกอร์ 2-1

ในปี 1980 ได้ทำการบันทึกเกียรติยศครบรอบ 100 ปี โดยที่มีสถิติ แชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย (1936-1937,1967-1968) แชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย ลีกคัพ 2 สมัย และ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย

ภายในช่วงระยะเวลา ของปี 1971-1980 มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมถึง 7 คน

ในปี 1981 Manchester City ได้ลงแข่งกับ Spurs ในรายการ FA Cup ซึ่งการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 100 ของรายการ ผลสรุปออกมาเป็นเสมอกันที่ 1-1 ก่อนที่จะเล่น รีแมทซ์ใหม่อีกรอบ ผลสกอร์ออกมาเป็นแมนซิตี พ่าย สเปอรส์ 3-2

ในปี 1986 แมนซิตี้แข่งในรอบชิงชนะเลิศที่ Wembley ด้วยจำนวนคนดูเต็มสนาม 68,000

ในฤดูกาล 1986-1987 สถิติสโมสรถูกทำลายลงด้วยจำนวน 10-1 ของการแข่งขันกับ Huddersfield Town และได้รับการบันทึกไว้ที่สนาม Maine Road

ในปี 1992 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของลีกสูงสุด จากการนับเพียงแค่การเรียกลีกสูงสุดดิวิชั่น 1 กลายเป็นพรีเมียร์ลีก และ เปลี่ยนดิวิชั่น 2 ให้กลายเป็นดิวิชั่น 1

ในปี 1997 การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งที่สำคัญของสโมสรแมนซิตี้ คือ การเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ที่แตกต่างจากเดิมค่อนข้างมาก และการเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนี้ มีคำขวัญในภาษาลาตินด้วยว่า Superbia in proelio หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ความภาคภูมิใจในการต่อสู้ แต่เพราะการเปลี่ยน โลโก้หรือเปล่าที่ทำให้ในปีถัดมาเกิดเหตุที่ผู้คนก่นด่า ว่าอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ทีมตกต่ำลง

ในปี 1998 แมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้ลงมาโลดแล่นการแข่งขันในลีก 3 ดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรก นับว่าเป็นการร่วงโรยที่ตกต่ำมากที่สุดของสโมสร

ในฤดูกาล 1998-1999 แมนซิตี้สามารถคว้าแชมป์เพื่อกลับขึ้นสู่ลีกดิวิชั่น 1 หรือแชมป์เปี้ยนชิฟในปัจจุบัน

Timeline ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่รู้จบสู่การร่วงโรย

1971-1983 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1983–1985 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1985–1987 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1987–1989 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L2)

1989–1992 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L1)

1992–1996 แมนซิตี้อยู่ Premier League (L1)

1996–1998 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L2)

1998–1999 แมนซิตี้อยู่ Division 2 (L3)

ยุค 21 Century ยักษ์หลับที่ตื่นขึ้น [2000 – ปัจจุบัน]

Gaint Wake up

Gaint Wake up

ในปี 2000 หลังจากที่โดนเนรเทศลงไปอยู่ในดิวิชั่น 2 ได้มีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรใหม่ คือ David Bernstei ให้ Joe Royle พา Manchester City คว้าแชมป์กลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง

ในฤดูกาล 2000-2001 การเล่นที่ไม่คงที่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงในบางอย่าง ทำให้ทีมตกชั้นอีกครั้งหนึ่ง

ในฤดูกาล 2001-2002 เป็นการเล่นในลีกดิวิชั่น 1 ครั้งสุดท้ายและทำประตูสูงสุดที่เคยทำได้

ในปี 2003 การปรับปรุงสนามย้ายสนามเหย้าไปยังสนามกีฬาอัลติฮัด หรือ City of Manchester Stadium สามารถจุคนได้มากถึง 48,000 คน เป็นการใช้เงินราว 35 ล้านปอนด์

หลักจากเลื่อนชั้นขึ้นมาก ทีมแมนซิตี้อยู่บนลีกสูงสุดมาตลอด เพียงแต่อันดับที่ได้อยู่ช่วงกลางค่อนไปทางท้าย

ในปี 2008 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกหนึ่งครั้งจากนักธุรกิจชาวไทย จากความไม่มั่นคงทางการเงินของสโมสร Thaksin Shinawatra แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองทำให้รายการทรัพย์สินของเจ้าตัวถูกอายัดเอาไว้ (ทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านปอนด์)

ทำให้ไม่มีแม้กระทั่งเงินจะจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ เรือใบสีฟ้าเปรียบเสมือนเรือที่ใกล้จะอับปางลง แต่ ใครจะคาดคิดว่าการอับปางในดินแดนแห่งทะเลทรายนั้นเปรียบได้ดังแสงสว่าง ช่วงท้ายปี 2008 ในเดือนสิงหาคม Abu Dhabi United Group ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ต่อ เป็นจำนวนเงิน 200 ล้านปอนด์ ที่ปลดล็อคเรือลำน้อยกลายเป็นเรือรบ ความงดงามแห่งความสำเร็จในสายธารน้ำจากเรือลำน้อยเพื่อความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนัง เงินแห่งโชคชะตาหรือจะเป็นตัวตลกในวงการลูกหนัง

ในปี 2009 Roberto Mancini เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ Manchester City ทางสโมสรใช้จ่ายมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ในการซื้อตัวนักเตะต่างๆ ได้แก่ Gareth Barry, Roque Santa Cruz, Kolo Touré, Emmanuel Adebayor, Carlos Tevez และ Joleon Lescott

ในฤดูกาล 2009-2010 Manchester City จบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 นับตั้งแต่เปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อันดับที่ดีที่สุด

ในฤดูกาล 2011-2012 ส Roberto Mancini ร้างประวัติศาสตร์ในรอบ 44 ปี การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกจากการเข้ามาของ Sergio Aguero

ในปี 2013 Roberto Mancini ก็ถูกปลดในการแพ้ให้กับวีแกนแอทเลติก (สโมสรที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกแต่ได้แชมป์เอฟเอคัพ)

ในฤดูกาล 2013-2014 Manuel Pellegrini กลายเป็นผู้จัดการทีมที่พา Manchester City คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง หลังจากนั้น Manuel Pellegrini

ในปี 2016 การเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมของแมนซิตี้ เกิดขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเข้ามาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อดีตผู้จัดการทีม Barcelona และ Bayern Munich ที่สร้างประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ในการครองแชมป์มาแล้ว

ในฤดูกาล 2017-2018 สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก 100 แต้ม 106 ประตูเก็บชัยชนะได้ถึง 32 นัด เก็บชัยชนะติดต่อกันมากที่สุด 18 นัด

ในฤดูกาล 2018-2019 เป็น Manchester City คว้าแชมป์ Carabao Cup มีชัยชนะเหนือ Chelsea ที่สนาม Wembley

Timeline ยุค 21 Century ยักษ์หลับที่ตื่นขึ้น

2001–2002 แมนซิตี้อยู่ Division 1 (L2)

2002–ปัจจุบัน แมนซิตี้อยู่ Premier League (L1)

สนามกีฬาของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้

Man City Stadium

Man City Stadium

Hyde Road (Stadium) เป็นสนามฟุตบอลเหย้าของ Manchester City ตั้งแต่ 1887 จนถึง 1923 ในปี 1904 พัฒนาเป็นเจ้าภาพจัดงาน FA Cup รอบรองชนะเลิศจุคนดูได้ถึง 40,000 คน อยู่ใน Ardwick Green ก่อนที่จะถูกไฟไหม้ในปี 1920 ทำให้ต้องย้ายสนาม

Maine Road เป็นสนามฟุตบอลที่ย้ายมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ อยู่ในเขต Moss Side ของแมนเชสเตอร์ซิตี้ สามารถจุคนได้มากถึง 80,000 คน (รวมบัตรยืน) ใช้เป็นสนามเหย้า ในปี 1923 จนถึง 2003 ได้รับการปรับปรุงใหม่หลายครั้งตลอดในประวัติศาสตร์ 80 ปีของสนาม ซึ่งในปี 1963 กลายเป็นสนามฟุตบอลที่มีม้านั่งมากที่สุดของสโมสรบนเกาะอังกฤษก่อนที่จะถูกทำลายสถิติลงไป

ปัจจุบันแล้วสนามแห่งนี้กลายเป็นของ ทีมสโมสร Maine Road F.C เล่นอยู่ใน North West Counties Football League

City of Manchester Stadium หรือ ที่รู้จักในนาม Etihad Stadium เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่อันดับ 5 ของเวทีพรีเมียร์ลีก และ อันดับ 10 บนเกาะอังกฤษ หลังจากการย้ายมาจากสนาม Maine Road ซึ่งเป็นการเช่าจากสภาเมืองแมนเชสเตอร์เป็นเวลาถึง 250 ปี ใช้เงินสูงถึง 35 ล้านปอนด์เพื่อการปรับปรุงสนามให้โอ่อ่าทันสมัย และ จุผู้ชมได้มากถึง 48,000 คน ในฤดูกาล 2015–16 ได้ก่อสร้างเพิ่มที่นั่งขึ้นอีกประมาณ 7000 ที่นั่ง ปัจจุบันนี้กลายเป็น 55,017 และมีแนวโน้มว่าจะทำให้ถึง 61,000 ที่นั่ง

และ ยังใช้เป็นสนามในการแข่งขันกีฬาประเภทอื่นๆอีกด้วยได้แก่ Rugby league ช่วงปี 2012–2014 และในปี 2015 รายการ Rugby World Cup เกมการแข่งขันที่อังกฤษพบกับอุรุกวัย ที่อังกฤษชนะไปด้วยผล 60-3 มีผู้เข้าชม 50,778 ที่นั่ง

นอกเหนือช่วงเวลาฤดูกาลการแข่งขันฟุตบอลที่สนาม Etihad Stadium จะจัดคอนเสิร์ตประจำปี มีความจุสูงสุด 60,000 คน

คอนเสิร์ตครั้งแรกของสนาม Etihad Stadium คือการแสดงของวง Red Hot Chili Peppers ในปี 2004

คอนเสิร์ตที่มีผู้เข้าชม 60,000 คนเป็นครั้งแรกคือวง Oasis ในปี 2005

เรื่องราวที่น่าสนใจของทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้

Manchester City Etihad Campus

Manchester City Etihad Campus

แมนซิตี้ใช้เงินลงทุน 200 ล้านปอนด์ ในการสร้าง Etihad Campus ให้มีสนามซ้อมทั้งหมด 16 สนาม และ มีความจุ 7,000 ที่นั่งของแต่ละสนาม เพื่อใช้สำหรับเป็นสนามฝึกซ้อมของทีมชุดใหญ่และอคาเดมี่ระดับ Elite ของโลก

การได้ซุปเปอร์สตาร์คนแรกมาพร้อมกับเครื่องชงกาแฟ ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือ Blue Moon จากการประพันธ์ของมาร์ก ฮอดกินสัน ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวต่างๆของแมนซิตี้ ในการเปรียบเทียบยุคสมัยหนึ่งก่อนที่แมนซิตี้จะขึ้นมายิ่งใหญ่ได้แบบในปัจจุบันว่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหมือนห้างสรรพสินค้าไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่รวมดาราดาวดังนักเตะไว้ภายในทีม และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นเหมือนร้านของชำที่หัวมุมถนนที่ไม่มีแม้แต่สตาร์ใดๆ

ในปี 2008 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสรถูกอายัดทรัพย์ ทำให้ทีมไม่มีเงินแม้แต่ปอนด์เดียวที่จะใช้จ่ายค่าเหนื่อยนักฟุตบอล รวมไปจนถึงค่าน้ำ ค่าไฟ

ก่อนการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม ไม่มีแม้แต่ห้องเก็บถ้วยรางวัล ไม่มีเครื่องชงกาแฟ ไม่มีแม้แต่ประตูห้องน้ำในสนามซ้อม ไม่มีสีขาวที่จะใช้สำหรับการตีเส้นสนาม

แว็งซ็องต์ กอมปานี เป็นดาวรุ่งคนแรกที่ถูกซื้อตัวมาก่อนการเปลี่ยนแปลง ของการเทคโอเวอร์ 10 วัน

หลังจากการเทคโอเวอร์ ในปี 2008 การเซ็นสัญญาก่อนตลาดจะวายใน 10 นาทีสุดท้ายคว้าตัวโรบินโญ เป็นสตาร์ทายาทลูกหนังคนดังคนแรกที่เข้าร่วมทีม โดยที่ก่อนหน้านี้มีการเสนอ 30 ล้านปอนด์กับบาร์เซโลนาเพื่อที่จะซื้อเมสซี่ ทุ่ม 30 ล้านปอนด์ให้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับ การมาของ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ แต่น่าเสียดายว่าดีลนี้ไม่เกิดขึ้น

ต่อจากนั้นอีกหนึ่งปี แมนซิตี้ ติดต่อขอซื้อ คริสเตียโน โรนัลโด ด้วยเงิน 135 ล้านปอนด์ แต่ถูกปฏิเสธ และ โรนัลโด้เลือกย้ายไปเรอัล มาดริด แต่ภายในปีเดียวกันนี้กับได้สตาร์นักเตะคนอื่นมาอย่างล้นหลาม ได้แก่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โคโล ตูเร่, คาร์ลอส เตเวซ, ซิลวิญญู, โรเก ซานตาครูซ, แกเร็ท แบร์รี, ซามีร์ นัสรี, อดัม จอห์นสันและ โจลีออน เลสค็อต

การสร้างทีมที่ต้องใช้เวลามากถึง 50-60 ปี ถูกย่นเวลาการสร้างโดย ซิกิ เบกิริสไตน์ ซึ่งเคยอยู่กับบาร์เซโลนา ทำให้ใช้ไม่ถึง 10 ปี เพื่อประสบความสำเร็จขึ้นมา

Pep Guardiola

Pep Guardiola

เป๊ป กวาร์ดิโอลา โค้ชที่ถูกยกย่องว่าปราดเปรื่องที่สุดในโลก เข้ามาคุมทีมแมนซิตี้เพื่อที่จะไปสู่จุดสูงสุดของโลก กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำคะแนนได้ถึง 100 แต้มในฤดูกาล 2017-2018

แมนเชสเตอร์ซิตี้ยิงประตูรวมได้ถึง 106 ประตู ในฤดูกาล 2017-2018 ทำลายสถิติเดิมของเชลซีที่ทำไว้ 103 ประตูของฤดูกาล 2009-2010 ในฤดูกาลเดียวกันเก็บชัยชนะได้ถึง 32 นัด ชัยชนะติดต่อกันมากที่สุดเป็น 18 นัดติดต่อกันบนเวทีพรีเมียร์ลีก

ตั้งแต่การเทคโอเวอร์มีการคำนวณรวมกันแล้วว่า 10 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ใช้เงินประมาณ 1,350 ล้านปอนด์ (ประมาณ 60,750 ล้านบาท) เพื่อซื้อผู้เล่นจำนวน 70 ราย โดยเป็นการใช้เงินในการซื้อขายนักเตะมากที่สุดของลีกในยุโรป

โดยมีอันดับ 2 เป็น เชลซีเป็นเงิน 1,130 ล้านปอนด์ และ บาร์เซโลน่าเป็นเงิน 1,080 ล้านปอนด์ ตามลำดับ

ถึงจะเป็นทีมโคตรเศรษฐี แต่ไม่เคยทุบสถิติโลก นักฟุตบอลที่แพงที่สุดของสโมสรที่เคยทุ่มเงินซื้อ คือ ริยาด มาห์เรซ ด้วยเงิน 60 ล้านปอนด์ เควิน เดอ บรอยน์ ด้วยเงิน 55 ล้านปอนด์  เซร์คิโอ อเกวโร่ ด้วยเงิน 40 ล้านปอนด์

เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่แท้จริง คือ ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน

แมนเชสเตอร์ซิตี้ Retired numbers 23 ออกจากการเล่นของ Marc-Vivien Foé ที่เสียชีวิตในสนามขณะเล่นให้กับทีมแคเมอรูน

แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นทีมที่มีแฟนบอลติดตามมากเป็นพิเศษและเหนียวแน่นเสมอ แม้ว่าจะตกไปอยู่ในดิวิชั่นต่ำ แต่ในนัดที่แข่งภายในบ้านตัวเองก็ยังมีผู้เข้าชมเฉลี่ยอยู่ที่ 39,000 คนต่อนัด คาดการณ์ว่าเป็นชาวอังกฤษอย่างน้อย 4 แสนคน 2 ล้านคนทั่วโลก และ มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก

Liam & Noel Gallagher วง Oasis เป็นแฟนฟุตบอลทีม แมนเชสเตอร์ซิตี้ เนื่องจากเป็นชาวแมนเชสเตอร์โดยกำเนิด ทำให้ เป๊ป เลือกที่จะใช้เพลง Don’t Look Back In Anger ของวง Oasis ในห้องแต่งตัวเพื่อกระตุ้นนักเตะก่อนลงแข่ง

ในปี 2018 นักเตะเรือใบสีฟ้า รวมเงินกันซื้อนาฬิกา Rolex ให้กับเหล่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของทีม ได้แก่ สตาฟฟ์โค้ช พนักงานในสโมสร พ่อครัวและช่างภาพ รวมแล้วมากถึง 100 เรือน มูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาท ที่อยู่เบื้องหลังตลอดความสำเร็จในปี 2018

แมนซิตี้กลายเป็นบริษัทฟุตบอลข้ามชาติครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลก ใช้เวลา 4 ปีด้วยเงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านปอนด์ เพื่อยกระดับทีม

Aguero

Aguero

อเกวโร เป็นดาวซัลโซสูงสุดที่ยิงได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ มีความต้องการที่จะใส่เบอร์ 10 ตั้งแต่ฤดูกาลแรก เป็นนักเตะอเมริกาใต้คนเดียวที่ทำประตูได้มากกว่า 150 ประตู ที่มีค่าเฉลี่ยในการยิงประตูต่อ 1 ฤดูกาลที่ 20 ประตู

ทีมฟุตบอลที่เป็นอริร่วมเมือง คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีสาเหตุมาจากในอดีตมีการเดินทางที่ยากลำบากทำให้สร้างทีมเพิ่มขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมีการเดินทางที่สะดวกแล้ว แต่หากมองถึงภาพทุกธุรกิจ การที่จะร่วมทั้งสองทีมนี้เป็นทีมเดียวคงจะไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน

เนื่องจาก สำหรับแมนเชสเตอร์ซิตี้แฟนบอลส่วนใหญ่เป็นชาวแมนเชสเตอร์ แต่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะมีแฟนบอลอยู่ที่เมืองอื่นๆด้วยไม่น้อย ทำให้แตกต่างจากอริร่วมเมืองต่างๆ อาเซน่อลกับสเปอร์ส หรือ เรนเจอส์กับเซลติก

ทีมสโมสรในกลุ่มของ City Football

City Football Group

City Football Group

กลุ่มนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงฤดูกาล 2013-2014 เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ของกลุ่ม Abu Dhabi United Group ที่เป็นเครือข่ายในการถือหุ้น พร้อมกับการแบ่งปันสรรพยากรเพื่อการพัฒนาทางด้านกีฬา การศึกษา และ การตลาด กลายเป็น  City Football Group ซึ่งประกอบด้วยสโมสรต่างๆดังนี้

Melbourne City FC (สโมสรฟุตบอลเมลเบิร์น ซิตี้) จากสหพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย

เริ่มต้นเข้าร่วมกลุ่มในวันที่ 23 มกราคม 2014 อยู่ในโดยมี Melbourne Storm ที่อยู่ใน Australian Rugby และ Melbourne City FC A-League ในวันที่ 5 สิงหาคม 2015

Yokohama F. Marinos (สโมสรฟุตบอลโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส) จากสโมสรฟุตบอลอาชีพเจลีก

Manchester City ได้ร่วมมือกับบริษัท Nissan และ กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทยานยนต์ญี่ปุ่น (โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ก่อตั้งโดยบริษัทนิสสัน มอเตอร์ส) นักฟุตบอลชาวไทยที่อยู่กับสโมสรแห่งนี้ คือ ธีราทร บุญมาทัน

New York City FC (สโมสรฟุตบอลนิวยอร์กซิตี) จากเมเจอร์ลีกซอกเกอร์สหรัฐอเมริกา

สำหรับ New York City FC ที่ Manchester City เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2013 เข้าไปเป็นแฟรนไชส์ทีม New York Yankees หนึ่งในสโมสรเบสบอลของอเมริกา จากนั้นก็เริ่มต้นทางด้านฟุตบอลด้วยการทำทีม New York City FC ในปี 2015

Club Atletico Torque (สโมสรฟุตบอลแอตแลนติโกทอร์กคลับ) จากสโมสรฟุตบอล Uruguayan Primera Division

Club Atletico Torque เป็นสโมสรที่ถูกก่อตั้งในปี 2007 ในวันที่ 5 เมษายน 2017 กลุ่มอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ได้เข้าไปเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล และ นำทีมขึ้นจากดิวิชั่น 2 มาเข้าร่วมการแข่งขัน Uruguayan Primera Division ได้ในปี 2018

Girona FC (สโมสรฟุตบอลคิโรน่า) จากสโมสรฟุตบอล ลาลีกา สเปน

ในวันที่ 23 สิงหาคม 2017 Girona FC การซื้อทีมสโมสรฟุตบอลจากกลุ่ม City Football Group เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 44.3% และ อีก 44.3% ถือหุ้นโดย Girona Football Group นำโดย Pere Guardiola เป็นพี่ชายของโค้ชที่ปราดเปรื่องที่สุดในโลกและอยู่ในทีม Manchester City คือ Pep Guardiola

โลโก้ตราสัญลักษณ์ทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้

Club Badge

Club Badge

ในปี 1930 จุดเริ่มต้นของตราสโมสรมาจากตราประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ที่ใช้ตราเป็นวงกลมและมีเรือสำเภาอยู่ภายใน เพื่อสื่อถึงการเดินเรือในคลองของเมืองแมนเชสเตอร์

ในปี 1972 มีการเปลี่ยนแปลงตราสโมสร ด้วยการเพิ่มกุหลาบสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์แลงคัสเตอร์ และ คงไว้ซึ่งเรือสำเภา ที่หมายถึงคลองเดินเรือในเมือง

ในปี 1997 มีการเปลี่ยนแปลงตราสโมสรอีกครั้ง ด้วยการเพิ่มนกอินทรีสีทอง ที่สื่อถึงอุตสาหกรรมทางการบินที่กำลังรุ่งเรืองของยุค และ คงไว้ซึ่งเรือสำเภาเช่นเดิม

ในปี 2016 การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง จากเหตุการณ์ที่แฟนฟุตบอลทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ ต้องทำตราสโมสรใหม่ ในช่วงซัมเมอร์จึงกำเนิดตราสัญลักษณ์ใหม่ขึ้นด้วย คือ เรือใบแมนเชสเตอร์, แม่น้ำสามสายของเมือง และ กุหลาบสีแดง

สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้กับประเทศไทย

Manchester City Club with Thailand

Manchester City Club with Thailand

ในปี 2006 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ด้วยราคา 100 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะขายให้กับกลุ่มอาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป

ในปี 2007 นักเตะดาวรุ่งของไทยจำนวน 3 คน ได้ทำการเซ็นสัญญาเพื่อเป็นนักเตะของแมน ซิตี้ คือ เกียรติประวุฒิ สายแวว, ธีรศิลป์ แดงดา และ สุรีย์ สุขะ

ในวันที่ 30 เมษายน 2018 เจ้าของผลิตภัณฑ์ เบตาดีน ได้สร้างโอกาสให้กับเยาวชนไทยในการก้าวเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักฟุตบอล ด้วยการนำ 60 เยาวชนไทยจากทั่วประเทศ เข้ามาร่วมฝึกทักษะ จากนักเตะมืออาชีพจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยมาการคัดเลือกนี้มาจากเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 10-13 ปี ผู้สมัครกว่า 800 คน

ในวันที่ 2 – 6 มิถุนายน 2018 บริษัท TECNO Mobile กับ สโมสร Manchester City ได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับเยาวชนของไทยจำนวน 70  คนภายในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับการฝึกจากโค้ชในทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเป็นการฝึกทักษะแบบเดียวกันกับสโมสรเรือใบสีฟ้า

ความนิยมในสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวไทยที่ติดตามมากถึง 25 ล้านคน และให้การสนับสนุนอย่างเป็นทางการ มี Official Supporters Club อยู่ในจังหวัดกรุงเทพ เพื่อให้แฟนฟุตบอลในประเทศไทยได้แบ่งปันความชื่นชอบที่มีต่อเรือใบสีฟ้าร่วมกัน

อายเมริค ลาป๊อร์กต์ และ บราฮิม ดิแอซ นักเตะจากแมนซิตี้ได้นำถ้วย แชมป์พรีเมียร์ลีกและคาราบาวคัพ มาให้แฟนๆแมนซิตี้ร่วมชื่นชมในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นกิจกรรมสุดพิเศษอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับแฟนบอลชาวไทย

ข้อมูลจากสโบเบท

ประวัติ Ramadan Ondash นักชกมวยไทยดาวรุ่ง ต่อยหนัก รุนแรง

รามาดาน ออนดาช ประเทศเลบานอน ชื่นชอบกีฬามวยไทย จึงฝึกซ้อมชกมาตั้งแต่ยังเด็ก แถมพี่ชายยังเป็นนักกีฬามวยไทยในศึก ONE จึงทำให้เจ้าตัวมีความฝันอยากเดินรอยตามพี่ชายของตัวเอง โดยเขามีทักษะการต่อยที่รวดเร็วรุนแรง หมัดทุกดอกที่ส่งออกไปแม่นยำมาก...[...]


ประวัติ สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง หมัดหนัก นักล่าเงินโบนัสศึก วันลุมพินี

สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง นักชกร่างป้อม หัวใจมวยไทยสู้ไม่มีถอย พร้อมจัดใส่ประเคนหมัดคู่ต่อสู้ให้ลงไปน็อกเอาต์บนเวทีให้ได้ เจ้าตัวเข้ามาสู่รายการขึ้นชก one ลุมพินี ทำให้ชีวิตเส้นทางนักมวยของเขาแจ่มใสมาก สามารถคว้าโบนัสจากรายการนี้ไปครอบครอง 6...[...]


ประวัติ เจก พีค็อก นักชกแขนเดียว ONE ทักษะมวยไทยยอดเยี่ยม

เจก พีค็อก นักชกมวยไทยที่กำลังน่าจับตามองในเวลานี้ ด้วยร่างกายที่มี แขนเดียว กับ แขนครึ่งท่อน ทำให้หลายคนมองว่าเขาน่าจะเสียเปรียบคู่ต่อสู้แน่ แต่ที่ไหนได้เขามีจังหวะการเข้าต่อยดี สามารถปล่อยอาวุธออกมาได้สวยงาม...[...]


ประวัตินักมวย กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย หมัดซ้ายอุกกาบาต น่ากลัวรุนแรง

กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย นักมวยไทยที่มีท่าไม้ตายพร้อมจัดการคู่ต่อสู้ด้วยท่าไม้ตาย ซ้ายอุกกาบาต ฉายานี้เท่มาก เพราะเจ้าตัวมีพลังหมัดซ้ายรุนแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ที่โดนตัดลำตัวหน้าทองต้องทรุดน็อกแทบทุกราย...[...]


ประวัติ Jayden danns ตามฝันพ่อสำเร็จ สู่กองหน้าดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล

Jayden danns (เจย์เดน อเล็กซานเดอร์ แดนส์) เด็กหนุ่มดาวรุ่งหัวฟูแห่งยอดทีม ลิเวอร์พูล กำลังฉายแววความเก่งของตัวเองให้คนทั่งโลกได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดสามารถลงสำรองไปเอาชนะยอดทีม เชลซี ลงได้สำเร็จในรายการ คาราบาวคัพ...[...]



©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.