• www.sbobetonline24.com เราคือตัวแทนจาก sbobet โดยตรง บริการแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด
  • ขณะนี้ได้มีกลุ่มแอบอ้างหลอกโอนเงิน เพื่อความปลอดภัย กรณีมีการเปลี่ยนบัญชี รบกวนท่านสมาชิกตรวจสอบให้ถูกต้องก่อน ยกตัวอย่าง โทรกลับมาที่ Call center สอบถามทีมงานเพื่อความถูกต้อง
  • ประกาศ!!! ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์การถอนเงิน และยึดเงินวางเดิมพัน สำหรับลูกค้าที่มีการเล่นแบบผิดปกติ หรือ ใช้โปรแกรมในการช่วยเล่น โดยที่ไม่จำเป้นต้องแจ้งล่วงหน้า
 

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังตัวฉกาจ ทายาทคนใหม่ผีแดง


แฮร์รี่ แม็คไกวร์ หรือ เจค็อบ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เกิดขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม 1993 เขากำเนิดและเติบโตขึ้นมาในเมือง เชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ในช่วงวัยเด็กของ แม็คไกวร์ เขาเป็นเด็กชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ และชอบเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ โดยก้าวแรกของการเข้าสู่วงการลูกหนังของเขานั้น ได้เกิดขึ้นจากการแนะนำของ โจ แม็คไกวร์ พี่ชายของเขา แต่ในตอนนั้นเขาเป็นเพียงเด็กที่เล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ และพี่ชายอยู่ในระแวกบ้านเพียงเท่านั้น จนกระทั่งเขาเริ่มมีความคิดที่มันมาไกลจนกลายเป็นความฝันที่อยากจะติดทีมชาติอังกฤษสักครั้ง แฮร์รี่ แมคไกวร์ จึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมคัดเลือกเป็นนักเตะเยาวชนในทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพื่อหวังจะพัฒนาฝีเท้าของตัวเองให้มีความเก่งกาจและพิชิตความฝันของตัวเองให้จงได้

harry-maguire-brother-Joe

แม็คไกวร์ ได้รับการแนะนำและชักชวนในการเล่นฟุตบอลจาก โจล แม็คไกวร์ ผู้เป็นพี่ชาย

ก้าวแรกในวงการลูกหนัง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

harry-maguire-sheffield-united

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้เข้ามาอยู่กับทีมเยาวชนกับทาง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และถูกเรียกขึ้นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี

ในช่วงแรกที่ แฮร์รี่ แมกไกวร์ ได้เข้ามาเป็นเยาวชนอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด นั้น เขาได้เล่นในตำแหน่งกองกลาง จนกระทั่งเขามีอายุประมาณ 16-17 ปี ร่างกายของเขาได้มีการเจริญเติบโตและสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโค้ชผู้ฝึกสอนในทีมเยาวชนของเขานั้น ได้แนะนำให้เขาลองเล่นในตำแหน่งกองหลัง แมไกวร์ จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงและย้ายมาเล่นในตำแหน่งกองหลังในทันที ซึ่งถือได้ว่าเขาทำผลงานในตำแหน่งกองหลังออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีความขยันในการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามพิสูจน์และผลักดันตัวเองในขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ของสโมสรให้ได้ จนในปี 2011 แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในวัย 18 ปี เขาได้ถูกเรียกขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของสโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้เป็นครั้งแรก และได้ลงสนามให้กับสโมสรเป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในฐานะของนักเตะสำรอง ในช่วงเดือนเมษายน 2011 ซึ่งถือได้ว่าทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้จะมีบางโอกาสที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่ในการแข่งขันนัดต่อๆ มา เขาก็สามารถกลายมาเป็นตัวหลักให้กับทางสโมสรได้สำเร็จ และในขณะนั้นถือเป็นช่วงที่ แม็กไกวร์ ยังมีอายุที่น้อยและยังขาดประสบการณ์เป็นอย่างมาก จึงทำให้เขามีจุดเดือดที่ต่ำและสกัดบอลด้วยลูกเล่นที่หนักหน่วงอยู่บ่อยๆ ถึงแม้นั่นจะเป็นผลเสียในการเล่นฟุตบอลแบบเป็นทีม แต่ถือว่าเขาสามารถซื้อใจแฟนบอลของสโมสร เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้เป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมหนีตกชั้นได้และต้องตกไปเล่นในศึก League One ซึ่งในฤดูกาล 2012-2013 แมไกวร์ ได้ก้าวขึ้นเป็นกำลังหลักของสโมสรได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาลงสนามในเกมนัดเปิดฤดูกาลและสามารถทำประตูแรกในชีวิตการค้าแข้งได้สำเร็จ และด้วยความแข็งแกร่งและดุดันในตัวของเขานั้นทำให้ทีมไม่มีปัญหาในเรื่องของแนวรับแม้แต่อย่างใด และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยังเกือบที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรได้สำเร็จด้วยการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในศึก FA Cup ได้สำเร็จ เพียงแต่ต้องถูกหยุดที่รอบ 4 ทีมสุดท้ายโดย ฮัลล์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 3-5 แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเก่งกาจและกล้าเล่นเกินวัยของเขา ฟอร์มได้เป็นสะดุดตากับสโมสรชั้นนำในศึกพรีเมียร์ลีกอย่างมากมาย แต่ในที่สุดแล้วเขากลับเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับทางสโมสร ฮัลล์ ซิตี้ ที่กำลังจะเลื่อนชั้นขึ้นไปสู้ศึก พรีเมียร์ลีก ในปี 2014-2015

ประสบการณ์ใหม่บนเวที พรีเมียร์ลีก

harry-maguire-hull-city

หลังจากทำผลงานกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ฮัลล์ ซิตี้ จึงตัดสินใจรีบซื้อตัว แม็คไกวร์ เข้ามาร่วมทีมทันที

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ตัดสินใจย้ายสโมสรมาอยู่กับทาง ฮัลล์ ซิตี้ ในปี 2014 เพื่อที่จะต้องการหาประสบการณ์และความท้าทายใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เพราะในขณะนั้น ฮัลล์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่เพิ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นอยู่บนลีกสูงสุดของอังกฤษได้สำเร็จ แต่อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าการขึ้นมาเล่นอยู่บนลีกสูงสุดของประเทศอย่าง พรีเมียร์ลีก นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายสำหรับ แม็คไกวร์ เพราะด้วยระดับของฟุตบอลและการแข่งขันที่สูงขึ้นนั้น ทำให้ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมของ ฮัลล์ ซิตี้ ในเวลานั้นมองเห็นว่า แมกไกวร์ น่าจะยังขาดในเรื่องของประสบการณ์ และดูเหมือนว่าเขาจะยังพร้อมสำหรับการแข่งขันบนเวทีพรีเมียร์ลีก จึงได้ทำการตัดสินใจที่จะปล่อยตัว แฮรี่ แมไกวร์ ให้กับทางสโมสร วีแกน แอธเลติก ได้ยืมตัวเขาไปใช้งานเป็นระยะเวลาครึ่งฤดูกาล ก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมกับความแข็งแกร่งและกลายมาเป็นกำลังหลักของสโมสรได้สำเร็จ แต่ถึงแม้ว่าในปี 2015 สโมสรฮัลล์ ซิตี้ จะต้องตกชั้นไปเล่นอยู่ในลีก แชมเปี้ยนส์ชิพ อีกครั้ง แต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลของสโมสรต้องผิดหวัง โดยเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งซีซั่นเท่านั้น ก็สามารถพาทีมกลับขึ้นมาเล่นบนศึกพรีเมียร์ลีกได้ โดยใน ฤดูกาล 2016-2017 เขาใช้เวลาในการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดของอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว จากการดูแลและแนะนำของ มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมในเวลานั้น และจากการแนะนำจากผู้จัดการทีมรายนี้จึงทำให้เขาได้ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมพร้อมทั้งยังได้รับบทบาทในการเป็นกัปตันทีมอย่างเต็มภาคภูมิ แต่ถึงจะทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจสักเท่าไหร่ก็ตาม สิ้นสุดฤดูกาล 2016-2017 ฮัลล์ ซิตี้ ก็ต้องตกชั้นอีกครั้ง จึงทำให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้กลายเป็นที่หมายตาของเหล่าสโมสรน้อยใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อย่างมากมาย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะเลือกย้ายไปเล่นให้กับสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคาค่าตัวประมาณ 17 ล้านปอนด์

เดินทางหาความสำเร็จกับ จิ้งจอกสยาม

harry-maguire-the-fox-leicster

การย้ายเข้ามาสู่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ นั้นถือว่าเขาสามารถเข้ามากลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสรได้ในทันที และนอกจากเกมรับที่เหนียวแน่นดั่งกำแพงเหล็กแล้ว เขายังสามารถขึ้นไปช่วยทำประตูให้กับสโมสรได้อย่างมากมาย และถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการเริ่มต้นการค้าแข้งกับทางต้นสังกัดใหม่ของตัวเขาเอง แต่ก็ แม็กไกวร์ ก็สามารถซื้อใจเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าในปีแรกในการย้ายเข้ามาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขาจะไม่มีรางวัลอะไรแต่ก็สามารถทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่หลายๆ ทีมได้รู้จักชื่อของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ได้อย่างมากขึ้น และด้วยฟอร์มการเล่นที่มีความแข็งแกร่งและดุดันจึงทำให้เขาสามารถมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลกปี 2018 ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งนี่ถือเป็นความฝันที่เป็นจริงของเขาเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ก็เป็นรายการการแข่งขันที่ทำให้หลายๆ คนในทีมชาติอังกฤษได้ทำการแจ้งเกินขึ้นมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะตัวของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่หลังจบทัวร์นาเมนต์อันสุดยิ่งใหญ่ในชีวิตลงไปแล้วนั้นก็ได้มีหลากหลายสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างมากมายให้ความสนใจในตัวเขา และพร้อมที่จะทุ่มเงินอันมหาศาลเพื่อทำการสู่ขอตัวเขาเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่มากมาย โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ยื่นข้อเสนอเขามาให้กับทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ได้พิจารณาเป็นจำนวนเงินถึง 60 ล้านปอนด์ แต่ก็ถูกทางทัพ จิ้งจอกสยาม ได้ทำการปฏิเสธกลับไป พร้อมทั้งประกาศออกสื่ออย่างชัดเจนว่า “ปราการหลังตัวเก่งของเรา ไม่ได้มีเอาไว้ขายเพื่อหาผลกำไรเข้าสโมสรแม้แต่อย่างใด เราพอใจกับผลงานการเล่นของเขา และขอแสดงความยินดีกับอันดับที่ 4 ในฟุตบอลโลก 2018 และเรายังเชื่อมั่นว่าเขาจะยังคงอยู่กับสโมสรของเราต่อไป”

ความฝันที่กลายเป็นจริง ติดทีมชาติอังกฤษ

harry-maguire-england-world-cupหลังจากที่ แม็กไกวร์ ได้ย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทางสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ และทำผลงานกับทางสโมสรออกมาได้อย่างแบบดีเกินคาด ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกเขาเข้ามาติดทีมชาติอังกฤษในเกมการแข่งขันนัดกระชับมิตรเป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นถือเป็นก้าวที่สำคัญในการติดทีมชาติของตัว แม็คไกวร์ เลยก็ว่าได้ เพราะในเวลาต่อมาหลังจบฤดูกาล 2017-2018 เขาได้มีชื่อติดเป็นนักเตะ 23 คนที่ได้ไปลุยในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งความแข็งแกร่งและความดุดันของเขาผสมกับการสอดแทรกขึ้นไปทำประตูได้แบบต่อเนื่อง ทำให้เขากลายเป็นกองหลังคนแรกๆ ที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ จะเลือกใช้งานเป็นรายแรกๆ ตลอด และจากผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องของทีมชาติอังกฤษชุดพลังหนุ่มนี้ ทำให้พวกเขาสามารถเล่นได้แบบสมบูรณ์แบบและทำผลงานออกมาได้อย่างดีเกินคาด หลังจากที่พวกเขาสามารถทะลุเข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แต่ต้องพ่ายแพ้ไปให้กับทางด้าน ทีมชาติโครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปด้วยผลการแข่งขัน 2-1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและผิดหวังสำหรับตัว แม็กไกวร์ เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ทีมชาติอังกฤษจะไม่สามารถเดินทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้แล้ว พวกเขายังคงทำผลงานในนัดชิงทีม 3 อีกครั้ง ด้วยการพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติเบลเยี่ยมไปด้วยสกอร์ 2-0 โดยทีมชาติอังกฤษของเขานั้นต้องจบทัวร์นาเมนต์นี้ไว้เพียงแค่ที่ 4 เท่านั้น

ก้าวเข้าสู่ โรงละครแห่งความฝัน

Harry-Maguire-ManU-vs-Chelsea

แมคไกวร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่เอาชนะ เชลซี ไปได้ 4-0

หลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมกับสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ในซีซั่น 2018-2019 ทำให้ แมคไกวร์ ได้รับความสนใจจาก 2 ทีมยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้ง 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองแมนเชสเตอร์นี้ได้พยายามที่จะติดต่อขอเจรจาและยื่นข้อเสนอให้กับทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดของ แฮรี่ แม็คไกวร์ ซึ่งทางทัพจิ้งจอกสยามนั้นมีความต้องการที่จะปล่อยตัวปราการหลังร่างใหญ่รายนี้ไปก็ต่อเมื่อได้ค่าตัวเป็นจำนวนเงินถึง 80 ล้านปอนด์เท่านั้น จึงทำให้ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทำการถอนตัวจากการไล่ล่านักเตะรายนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้ แมนฯยูไนเต็ด ได้เข้าเจรจากับทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างเต็มรูปแบบ และสามารถทำการคว้าตัว แมคไกวร์ เข้ามาสู่สโมสรได้สำเร็จก่อนที่จะเปิดฤดูกาล 2019-2020 ด้วยค่าตัวราวๆ 85 ล้านปอนด์ โดยได้รับสัญญาทั้งหมด 6 ปี และได้เลือกสวมเสื้อหมายเลข 5 ตามไอดอลของเขาอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตตำนานปราการหลังของทัพผีแดง นอกจากนี้เจ้าตัวยังถือว่าเป็น กองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ซึ่งหลังจากย้ายเข้ามาสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ไม่นานมากนัก แมคไกวร์ ก็สามารถที่จะเข้ามาเป็นตัวหลักของ แมนฯยูไนเต็ด ได้อย่างรวดเร็ว เขาสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตั้งแต่เกมการแข่งขันนัดแรกในการเปิดซีซั่นใหม่ของการแข่งขันศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ โดยเขาทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจและมีส่วนช่วยให้ทีมไม่เสียประตูในเกมที่เอาชนะ เชลซี คาบ้านไปได้ถึง 4-0 ซึ่งในเกมดังกล่าวนั้น แฮรี่ แมคไกวร์ ยังเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ประจำการแข่งขันอีกด้วย ถือเป็นการเปิดตัวการทางต้นสังกัดใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ในตอนนี้เจ้าตัวได้กลายเป็นขวัญในใจแนวรับคนใหม่ของบรรดาแฟนบอลผีแดงได้ทันที

เกียรติประวัติประจำตัว

harry-maguire-trophy

สโมสร

ฮัลล์ ซิตี้

EFL Championship Playoff : 2016

ทีมชาติอังกฤษ

UEFA Nations League third place : 2018-2019

รางวัลส่วนตัว

Young Player of the Month : 2011

Sheffield United Young Player of the Year : 2011-2012

Sheffield United Player of the Year : 2011-2012,  2012-2013, 2013-2014

PFA League One Team of the Year : 2011-2012,  2012-2013, 2013-2014

League One Team of the Season : 2013-2014

Hull City Fans Player of the Year : 2016-2017

Hull City Player of the Year : 2016-2017

Leicester City Player of the Season : 2017-2018

Leicester City Players Player of the Season : 2017-2018

ข้อมูลจากสโบเบท

ประวัติ Jonathan Haggerty จอมปราบมวยไทย คว้าแชมป์โลก ONE

Jonathan haggerty (โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี) นักกีฬามวยไทย จากประเทศอังกฤษ โดยตัวเขากำลังได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั่วโลก ด้วยฝีมือการต่อยฝึกซ้อมมวยมาตั้งแต่เด็ก แล้วเขายังรักวิชามวยไทยมากด้วย โดยในตอนนี้เขาเป็นนักกีฬา One Championship เนื้อหอมมากที่สุด...[...]


ประวัติ สมิงดำ ลูกสวน มวยบู๊ เจ้าของฉายา เต่านินจาเมืองไทย หมัดแรงดุดัน

สมิงดำ ลูกสวน นักมวยไทย ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเวที ONE ลุมพินี ที่มีการต่อยดุดัน กล้าแลกหมัดคู่ต่อสู้ได้อย่างสนุก แถมเขายังฐานแฟนคลับมากยิ่งขึ้นในไทย ทำให้เวลานี้ สมิงดำ มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย...[...]


ประวัติ ยอดไอคิว พีเค.แสนชัยฯ มวยไทย ยอดหมัดซ้ายรุนแรง


ยอดไอคิว พีเค.แสนชัยฯ นักมวยไทยดาวรุ่ง มีร่างกายที่กำยำ แถมยังผ่านศึกในรายการอย่าง วัน ลุมพินี มาแล้วด้วย ทักษะการออกหมัดอาวุธของเจ้าตัวนับว่ามีความรุนแรงอย่างมาก...[...]


ประวัติ เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี้ เดินตามรอยพี่ชาย โจนาธาน ฝันสู่แชมป์ ONE

นักมวยน่าจับตามองอีกหนึ่งคน เฟรดดี แฮ็กเกอร์ตี้ นักชกมวยไทยกำลังเข้าสู่ ONE ลุมพินี โดยเจ้าตัวเป็นน้องชายของ โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี้ 2 แชมป์โลกของศึก ONE Championship โดยน้องชายแชมป์โลก จะมาเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 49...[...]


ประวัติ หนุ่มพังงา อีเกิ้ลมวยไทย ต่อยมวย ONE กตัญญูปลดหนี้ให้ครอบครัว

หนุ่มพังงา อีเกิ้ลมวยไทย นักชกมวยไทย ที่กำลังมีชื่อเสียงอย่างมากในเวลานี้ เขามีทักษะการชกพร้อมแลกบวกเข้าใส่ เป็นสไตล์ชนแลกหมัดกัน โดนอะไรมาก็สนองกลับไปแบบนั้น การเดินทางเข้าสู่เวทีมวยระดับโลก ONE ลุมพินี ทำให้เขารู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหล...[...]



©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.