Sergio Leonel “Kun” Agüero del Castillo เซร์ฆิโอ เลโอเนล “กุน” อาเกวโร เดล คาสตีโญ ยอดดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ แต่มีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไปว่า เซร์ฆิโอ อาเกวโร , เซร์คิโอ อะกูเอโร และ คนไทยมักจะมีการเรียกกันแบบสั้นๆว่า กุน ปัจจุบันเล่นให้กับทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรือใบสีฟ้า เป็นผู้เล่นคนแรกในทวีปอเมริกาใต้ ที่ยิงประตูบนเวที พรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษถึง 100 ประตูคนแรก นักเตะระดับท็อปของโลก
ตั้งแต่สมัยที่เล่นให้กับทีมสโมสร แอตแลนด์ติโก้ มาดริด แบกทีมสู้กับบาเซโลนา รักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นได้อย่างร้อนแรง ผ่านร้อนหนาวมามากมาย 7 ฤดูกาล ยิง 5 ประตู ภายในเวลา 20 นาที นับเป็นผู้เล่นที่สามารถยิงได้ 5 ประตูเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอและมีส่วนช่วยในการทำประตูทุกครั้ง
แม้ว่าจะมีนักเตะรุ่นน้องเข้ามาสลับสับเปลี่ยนแต่ว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็มักจะมีชื่อติดอยู่ในรายชื่อนักเตะตัวจริงเสมอ คอนเซ็ปนักเตะที่ไม่ได้มีไว้ขาย และ เป็นผู้เล่นคนที่สามในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ยิงประตูให้สโมสรเดียวได้ถึง 150 ประตู ตามหลัง เธียร์รี อองรี (อาร์เซนอล เป็นจำนวน 175 ประตู) และ เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นจำนวน 183 ประตู) และ เป็นคนที่ 9 สำหรับการทำประตูในเวทีพรีเมียร์ลีก
เรื่องราวในชีวิตที่น่ารันทด ที่เกิดขึ้นกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในการตั้งชื่อที่ไม่สามารถใช้คำว่า Lionel เป็นชื่อได้ในพิธีการตั้งชื่อเพราะกฎหมายของอาเจนติน่า (เป็นเรื่องของช่วงเวลาที่สามารถใช้ตั้งเป็นชื่อได้) จึงถูกใช้เป็นเพียงแค่ชื่อกลางเท่านั้น และ เปลี่ยนเป็นเขียน Leonel (Lionel Messi เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งได้โดยรัฐบาล Rasario) ใช้ชีวิตแบบยากจนใน Buenos Aires ทำให้เขาใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ในปี 1991 เมื่อเซร์คิโอ อเกวโร่อยู่ในพื้นที่แถบชนบท ที่ส่วนใหญ่เป็นเขตการเล่นฟุตบอล จากนั้นเขาได้ลงทะเบียนเรียนในระบบการเล่นฟุตบอล Loma Alegre , 1 de Mayo , Bristol และ Los Primos และ มุ่งเน้นเพื่อเป็นกองหน้าอย่างแท้จริง
ด้วยตำแหน่งกองหน้า ทำให้ความสามารถในการทำประตูของ เซร์คิโอ อเกวโร่ นั้นสูงมาก และ ยังมีทักษะอย่างอื่นที่อยู่ในระดับสูงของโลก เป็นกองหน้าตัวจริงในวงการฟุตบอลอย่างแท้จริง ผู้ที่ประกาศว่าเขาจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดึงจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการคว้าแชมป์
นับว่าเขาก็หนึ่งในฝันร้ายสำหรับกองหลังและผู้รักษาประตู เป็นนักเตะฟุตบอลที่จะมองไปข้างหน้าอยู่อย่างสม่ำเสมอ สติปัญญา ยุทธวิธีและวิสัยทัศน์ สร้างสรรค์ให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างที่เล็กแต่ความแข็งแกร่งนั้นอย่างไรก็เป็นของจริง คล้ายคลึงกับ Carlos Tevez เพื่อนร่วมทีม ที่เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่มีความสมบูรณ์แบบและลงตัว
การยิง การวางเท้า ในการส่งลูกเข้าทำประตูนั้น ถือว่าอยู่ในระดับท็อป (เทียบกับการลงสนามนัดที่ 300 บนเวทีพรีเมียร์ลีก)
ยิงประตูได้ถึง 204 ประตู เทียบเป็นการยิงต่อ 1 เกมการแข่งขันจะอยู่เฉลี่ยที่ 0.68 นับเวลาการยิงประตูจะอยู่ที่ 108 นาที ต่อ 1 ลูก
มีการทำประตูจากเท้าซ้าย 37 ลูก ประตูจากเท้าขวา 148 ลูก ประตูจากลูกโหม่ง 19 ลูก เป็นเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษทำถึง 184 ลูก และนอกเขตโทษ 20 ลูก ทักษะการเคลื่อนที่ และ การหาช่องในการยิง ทำให้เขากลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทีม แม้จะมีอายุขึ้นหลักเลข 3 แล้วก็ตาม ปัจจุบัน เซร์คิโอ อเกวโร่ คือ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแมนเชสเตอร์ (ถ้านับทุกรายการสูงเกินกว่า 200 ประตูแล้ว)
มีการจ่ายบอลที่สามารถหวังผลได้อย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้จะมีสถิติแอสซิสต์ไม่สูงมาก โดยที่แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก 37 ลูก ในฤดูกาล 2014-15 จะทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 8 ครั้ง (เพราะเป็นกองหน้าต้องทำประตู) แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการเข้าสู่การทำประตูบ่อยครั้ง
เป็นนักเตะกับ อินดิพิเด็นเต้ สโมสรบ้านเกิด ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ Lionel del Castillo (เลโอเนล เดล แคสเทลิโอ) ผู้เป็นบิดาได้ลงมือสอน
เซร์คิโอ อเกวโร่ ด้วยตนเองตั้งแต่ต้น (พ่อของกุนเป็นนักฟุตบอลอาชีพแต่สโมสรไม่ได้รับการเผยแพร่)
เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นสถิติที่มีอายุน้อยที่สุดของวงการลูกหนังฟ้าขาวด้วยการเป็นนักเตะอาชีพของทีมสโมสรในอาเจนติน่ากับ อายุ 15 ปี กับ 35 วัน ทำลายสถิติเดิมของดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานเทพเจ้าลูกหนังของชาวอาเจนไตร์ ด้วยการลงสนามแทน Emanuel Rivas
ในปี 1997–2003 Independiente (อินเดเปนดิเอนเต) (สโมสรเยาวชน)
ในปี 2003–2006 Independiente (อินเดเปนดิเอนเต)
ในปี 2006-2011 Atlético Madrid (แอตแลนติโก มาดริด)
ในปี 2011–ปัจจุบัน Manchester City (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เล่นให้กับทีมในชุดเยาวชนของอินเดเปนดิเอนเตเมื่ออายุ 9 ขวบ และ เล่นให้กับทีมสโมสรอาชีพตั้งแต่อายุ 15 ปี อยู่กับทีมอินเดเปนดิเอนเต ถึง 3 ปีเต็ม กับการลงสนาม 56 นัด เป็นตัวจริง 45 ครั้ง และ ตัวสำรองอีก 11 ครั้ง กับจำนวนประตูถึง 23 ประตู ปีที่ส่องประกายมากที่สุดน่าจะเป็นฤดูกาล 2005-2006 ที่ลงสนาม 36 นัด กับ 18 ประตู พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อหน้าทีวีในอาร์เจนติน่าว่า “แม้ต่อไปไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ แต่สิ่งที่เกิดที่นี่ก็อาจจะเป็นประตูสุดท้ายของผมและเป็นเกมสุดท้ายของผมกับทีมแล้ว” ก่อนที่จะถูกขายให้กับทีมตราหมีแบบปกปิดค่าตัว ในวันที่ 30 พ.ค. 2006
ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวอ้างถึงการซื้อขายให้กับทีมหงส์แดง แต่กลับไปปรากฏตัวอยู่ที่ทีมตราหมีโดยไม่ทราบค่าตัว แต่ คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะมีการซื้อขายอยู่ที่ 15-18 ล้านปอนด์ ทำให้ ณ เวลานั้น เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดของทีม เล่นคู่กับกองหน้าที่เป็นสุดยอดของตราหมีอีกหนึ่งคน คือ เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าเบอร์ 1 ของทีมในยุคนั้น หลังจากการย้ายไปของ ตอร์เรส
อเกวโร่ กลายเป็นศูนย์กลางในการทำประตูของทีมสโมสรตราหมี พร้อมๆกับการเป็นที่รู้จักในโลกฟุตบอล
ในฤดูกาลปี 2006-07 เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงสนามทั้งหมด 42 นัด ยิงได้ 7 ประตู ส่งผลให้ทีมเข้าแข่ง UEFA Intertoto Cup
ในฤดูกาลปี 2007-08 เฟร์นานโด ตอร์เรส ย้ายไป ลิเวอร์พูล ทำให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นกองหน้าตัวหลักทันที ลงสนาม 50 นัด ยิง 27 ประตู พาทีมจบที่ 4 ทำให้ทีมเข้าแข่ง UEFA Champions League เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ในฤดูกาลปี 2008-09 เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ได้อย่างเข้าขากับรุ่นพี่ ดิเอโก ฟอรัน ที่เคยเป็นผู้เล่นอินเดเปนดิเอนเตเช่นกัน กับการพาทีมขึ้นเป็นลำดับที่ 4 เช่นเดิมคว้าสิทธิ UEFA Champions League อีกครั้ง
ในฤดูกาลปี 2009-10 พาทีมได้แชมป์ UEFA Super Cup และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองกัปตันคนใหม่ และ เซ็นต์สัญญาต่อไปจนถึงปี 2014
ในฤดูกาลปี 2010-11 นับเป็นการเล่นที่ดีที่สุดในการเล่นให้กับทีมแอตแลนติโก มาดริด และ ยิงประตูครบ 100 ลูกสำหรับการเล่นในเวทีลาลีกา พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก การเล่นให้กับทีมแอตแลนติโก มาดริด เป็นจำนวน 234 นัด กับจำนวนประตู 101 ประตู พร้อมกับการประกาศย้ายทีมทันทีพร้อมกับบอกสโมสรว่าต้องการจะย้ายทีมไปยังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์
การย้ายเข้าไปเป็นหนึ่งในขุนพลของเรือใบสีฟ้า ด้วยสัญญาเป็นเวลา 5 ปีบนเสื้อหมายเลข 16 กับชื่อ ชื่อ Kun Agüero
ในฤดูกาลปี 2011-12 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2011 กับการชนะสวอนซี ซิตี้ 4-0 ทำประตูแรกให้กับสโมสรภายในเก้านาทีหลังจากลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะยิง 30 ประตู จาก 48 นัด พร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี
ทำให้ได้รับการชื่นชมจากบรรดานักข่าวว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในอังกฤษ
ในฤดูกาลปี 2012-13 เซร์คิโอ อเกวโร่ เป็นส่วนหนึ่งในการคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ โดยมีชัยเหนือเชลซี 3-2 แต่บาดเจ็บตลอดทั้งปี ทำให้ยิงประตูได้ 17 ประตูเท่านั้น จาก 40 นัด
ในฤดูกาลปี 2013-14 อาการบาดเจ็บทำให้ไม่ได้ลงซ้อมกับทีมสโมสรในช่วงปิดฤดูกาล เพราะอาการบาดเจ็บ แต่การพักก็ทำให้เขากลับมาช่วยได้ทันกับการทำ 28 ประตู จาก 34 นัด และ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก
ในฤดูกาลปี 2014-15 เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำประตูโดยใช้เวลาเพียง 23 วินาที จากการเปลี่ยนตัวกับ Džeko เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ใช้เวลาเพียง 72 วินาทีกับการแข่งนิวคาสเซิล กับการลงแข่ง 42 นัดด้วย 32 ประตู ทำให้ได้รับรางวัล Premier League Golden Boot
ในฤดูกาลปี 2015-16 ภายในปีนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เปลี่ยนจากหมายเลข 16 ให้เป็นหมายเลข 10 จาก Džeko และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังจบฤดูกาลด้วยรางวัล Premier League Golden Boot จาก 44 นัด 29 ประตู
ในฤดูกาลปี 2016-17 เซร์คิโอ อเกวโร่ ช่วยเหลือทีมภายในปีนี้เป็นการลุ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกอีกครั้งแต่พ่ายแพ้ให้กับเชลซี ด้วยการทำ 33 ประตู จาก 45 นัด
ในฤดูกาลปี 2017-18 เสมือนกับฟ้ากลับมาเข้าข้าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ช่วยทำให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งอย่างงดงาม กับการลงสนาม 39 นัด 30 ประตู
ในฤดูกาลปี 2018-ปัจจุบัน เป็นที่แน่นอนแล้วว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ สร้างสถิติเป็นคนที่ 9 สำหรับพรีเมียร์ลีกที่ยิงประตูถึง 150 ประตู และ เป็นคนที่ 3 ที่ยิง 150 ประตูให้กับสโมสรเพียงสโมสรเดียว
เซร์คิโอ อเกวโร่ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดเยาวชน U16 ในปี 2004 นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนประเทศอาร์เจนตินาในการแข่งขันชิงแชมป์เยาวชนโลกฟีฟ่าถึง 2 ครั้ง ในปี 2005 ได้แชมป์ฟุตบอลโลกในชุดเยาวชน U20 พร้อมกับ Lionel Messi
รายการเดียวของอาเจนติน่าที่ได้เหรียญทอง คือ การแข่งขันโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ในปี 2008 เขาได้รับรางวัลดาวซัลโวสูงสุด จำนวน 6 ประตู และ ผู้เล่นทรงคุณค่า MVP ประจำรายการ
รายการฟุตบอลโลกของ เซร์คิโอ อเกวโร่
สำหรับปี 2010 ในชุดทีมชาติฟุตบอลโลก เซร์คิโอ อเกวโร่ เปิดตัวครั้งแรกในนามทีมชุดใหญ่ ตอนอายุ 18 ปี กับการแข่งขันนัดกระชับ มิตร กับ ทีมชาติบราซิล และ การเล่นให้กับทีมอาเจนติน่าครั้งนี้ พ่ายแพ้ให้กับเยอรมันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 4-0
สำหรับปี 2014 การพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่ทุกทีมต้องเจอและอาเจนติน่าก็เช่นกัน เซร์คิโอ อเกวโร่ รับใช้ชาติพร้อมกับ ลีโอเนล เมสซี่ ถึงแม้ว่าจะยิงประตูได้อยู่ตลอด แต่ว่าเท่านั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้ชนะฟุตบอลโลก การเป็นรองแชมป์เป็นอะไรที่เจ็บปวด ที่สำคัญการแพ้ครั้งนี้เป็นการแพ้ให้กับทีมเดิม คือ เยอรมัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0
ฟุตบอลโลกปี 2018 สร้างสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ สำหรับหัวจิตหัวใจของโค้ชทีมชาติอาเจนติน่า ถึงแม้ว่าจะจะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะนำทีมขึ้นสู่ความสำเร็จได้ หรือ อาจจะหมดไฟในการต่อสู้ในนามทีมชาติเสียแล้ว
ในปี 2011 ความสามารถของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ช่วยยิงประตูทำให้ทีมเข้าสู่รอบ 8 ทีม สุดท้ายได้แต่ก็พ่ายอุรุกวัยในการยิงดวลจุดโทษ
การกลับมาอีกครั้งของรายการโคปาอเมริกา ปี 2015 จัดขึ้นที่ประเทศชิลี เหมือนฝันร้ายของทีมชาติอาเจนติน่าจะอยู่กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ การเป็นรองแชมป์เกิดขึ้นครั้งแรกในศึกโคปาอเมริกา และ อีกครั้งต่อเนื่องกับการแข่งขันรายการนี้ในปี 2016 ฝันร้ายยังคงหลอกหลอน เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ลีโอเนล เมสซี่ ด้วยการเป็นรองแชมป์เหมือนเดิม และ พ่ายแพ้ให้กับทีม ชิลี เหมือนเดิมราวกับเทปกรอภาพย้อนการแข่งขันใหม่อีกครั้ง
เป็นที่กล่าวขานกันถึงระหว่างพ่อตาและลูกเขยรายนี้ เมืองปี 2008 สืบเนื่องจากการที่เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้กับลูกสาวคนสุดท้องของ ดิเอโก มาราโดนา ทั้งยังมีลูกชายเป็นพยานรัก Benjamin ในปี 2009 และ การย้ายทีมไปแมนเชสเตอร ซิตี้ ส่งผลให้การแยกทางกันระหว่าง Gianinna Maradona และ Sergio Aguero ในปี 2012 สำหรับการแยกทางกันครั้งนี้ทำให้ Gianinna ย้ายกลับไปยัง Buenos Aires
แม้ว่าจะเลิกรากันไปแต่ลูกชายของเขานั้นได้ความสามารถของเซร์คิโอ อเกวโร่ เข้าไปเต็มๆ ราวกับสืบทอดความสามารถในด้านนี้มาด้วย อายุเพียง 5 ปี ก็สามารถอยู่ในระดับท็อปของรุ่นเดียวกันแล้ว
แม้ความรักของ Aguero และ Gianinna ได้จบลงแต่ Aguero ก็ไม่ขาดแคลนความรัก Karina Tejeda นักร้องชาวอาเจนติน่าที่มีข่าวในการคบหากับ Aguero แต่การคบหาครั้งนี้ทำให้เกิดความบาดหมางกับ Marcos Rojo ที่เป็นแฟนเก่าของ Karina Tejeda แต่ภายใต้ความสัมพันธ์นี้ หลังจากมีข่าวเลิกราได้ไม่นานเท่าไร ยังมีนักฟุตบอลหญิงของทีมแมนเชสเตอร ซิตี้หญิง Toni Duggan ที่เข้ามาพัวพันธ์กับชีวิตของ Aguero ถึงแม้ว่าจะออกมาปฏิเสธ เกี่ยวกับเรื่องราวความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าไร้สาระแต่ก็ยังมีคนคอยเชื่อมโยงอยู่เสมอๆ
ล่าสุด โซเอ้ คริสโตโฟลิโอ้ สาวสักลาย นางแบบชาวอิตาเลี่ยนได้ติดต่อกับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำให้มีการกล่าวซุบซิบจากสื่อต่างๆถึงการแอบคบกันระหว่างทั้งสองคน ที่แอบนัดเจอกันที่ไนท์คลับแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส
Aguero มีรถ Lamborgini รุ่น Huracan ไว้ขับใช้งานซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง ราวๆ 160,000 เหรียญ หรือ 5 ล้านบาท
Aguero มีการทำการทดสอบความมั่นใจในตัวเองด้วยการ Test การขับรถในสนามแข่ง Donington Park Racing Circuit และ เอาชนะ Nico Rosberg ในรายการแข่งขัน Puma Challenge โดยใช้รถ Mescedes C63 AMG (Formula 1)
Aguero สนิทกับ Messi มาก ในปี 2014 บนหนังสือในอัตชีวประวัติของเขาได้กล่าวว่า “Messi like a brother” หรือ แปลเป็นไทยว่าเมสซี่เป็นพี่ชายแท้ๆ (เพราะใช้คำว่า brother) และ Messi ยังเป็นพ่อทูนหัวของ Benjamin อีกด้วย
Aguero ที่มีชื่อเล่นว่า Kun นั้นมีที่มากจากการ์ตูนในวัยเด็ก Wanpaku Amukashi Kum Kum กลายเป็นแรงบันดาลในให้ชื่อเล่นจากครอบครัวเด็กถ้ำที่พูดพึมพรำตลอดเวลาว่า Kum Kum
แขนขวาของ Aguero มีรอยสักที่ถูกเขียนไว้โดยภาษาที่คิดขึ้นจากโทลคีน JRR ในวรรณกรรมเรื่อง The Lord Of The Rings โดยอ่านออกเป็นชื่อของตัวเขาเองว่า Kun Aguero
แขนซ้ายของ Aguero มีรอยสักที่เขียนเป็นชื่อลูกชายสุดที่รักพร้อมวันเดือนปีเกิด
บนเวทีพรีเมียร์ลีก เพื่อนสนิทที่สุดในอังกฤษของเซร์คิโอ อเกวโร่ คือ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูของทีมปิศาจแดง ในสนามนั้นเขาต้องทำตามหน้าที่แต่เมืออยู่นอกสนามเขาคือเพื่อนที่สนิทกันที่สุด
ดิเอโก มาราโดนา เป็นพ่อบุญธรรมของ เซร์คิโอ อเกวโร่ หนึ่งในขุนพลคนสำคัญของโลกและตำนานนักเตะแมนซิตี้
กาสตัน เดล คาสตีโญ น้องชายของ เซร์คิโอ อเกวโร เล่นทีมสโมสรอินเดเพนเดียนเต้ ซึ่งเป็นสโมสรเดียวกับที่ กุนเคยเล่นให้
Aguero ยิงได้ 30 ประตูในการลงสนามที่เอธิฮัด สเตเดี้ยม กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
ชื่อ-นามสกุล : เซร์ฆิโอ เลโอเนล “กุน” อาเกวโร เดล คาสตีโญ (Sergio Leonel “Kun” Agüero del Castillo)
วันเดือนปีเกิด : 2 มิถุนายน ค.ศ. 1988
สถานที่เกิด : บัวโนสไอเรส, อาร์เจนตินา
สัญชาติ : เอาร์เจนตินา,สเปน
ส่วนสูง : 173 ซม.
ตำแหน่ง : กองหน้า,กองหน้าตัวเป้า
UEFA Europa League 1 สมัย : 2009–10
UEFA Super Cup 1 สมัย : 2010
Premier League 3 สมัย : 2011–12, 2013–14 และ 2017–18
EFL Cup 3 สมัย : 2013–14, 2015–16 และ 2017–18
FA Community Shield 2 สมัย : 2012 และ 2018
Olympic Gold Medal 1 สมัย : 2008
FIFA U-20 World Cup 2 สมัย : 2005 และ 2007
รองแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย : 2014
รองแชมป์ฟุตบอลโคปาอเมริกา 2 สมัย : 2015 และ 2016
รางวัลส่วนตัวของเซร์คิโอ อเกวโร่ [h3]
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 ของ FIFA
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2008 ของอเมริกา
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2009 ของฟุตบอลโลก
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2014 ของฟีฟ่า
รองเท้าทองคำ Premier League 2014-15
Don Balón Award 2007-08
Tuttosport Golden Boy 2007
เจก พีค็อก นักชกมวยไทยที่กำลังน่าจับตามองในเวลานี้ ด้วยร่างกายที่มี แขนเดียว กับ แขนครึ่งท่อน ทำให้หลายคนมองว่าเขาน่าจะเสียเปรียบคู่ต่อสู้แน่ แต่ที่ไหนได้เขามีจังหวะการเข้าต่อยดี สามารถปล่อยอาวุธออกมาได้สวยงาม...[...]
กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย นักมวยไทยที่มีท่าไม้ตายพร้อมจัดการคู่ต่อสู้ด้วยท่าไม้ตาย ซ้ายอุกกาบาต ฉายานี้เท่มาก เพราะเจ้าตัวมีพลังหมัดซ้ายรุนแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ที่โดนตัดลำตัวหน้าทองต้องทรุดน็อกแทบทุกราย...[...]
Jayden danns (เจย์เดน อเล็กซานเดอร์ แดนส์) เด็กหนุ่มดาวรุ่งหัวฟูแห่งยอดทีม ลิเวอร์พูล กำลังฉายแววความเก่งของตัวเองให้คนทั่งโลกได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดสามารถลงสำรองไปเอาชนะยอดทีม เชลซี ลงได้สำเร็จในรายการ คาราบาวคัพ...[...]
Jonathan haggerty (โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี) นักกีฬามวยไทย จากประเทศอังกฤษ โดยตัวเขากำลังได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั่วโลก ด้วยฝีมือการต่อยฝึกซ้อมมวยมาตั้งแต่เด็ก แล้วเขายังรักวิชามวยไทยมากด้วย โดยในตอนนี้เขาเป็นนักกีฬา One Championship เนื้อหอมมากที่สุด...[...]
สมิงดำ ลูกสวน นักมวยไทย ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเวที ONE ลุมพินี ที่มีการต่อยดุดัน กล้าแลกหมัดคู่ต่อสู้ได้อย่างสนุก แถมเขายังฐานแฟนคลับมากยิ่งขึ้นในไทย ทำให้เวลานี้ สมิงดำ มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย...[...]
©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.