Liverpool F.C. กับคำขวัญ You’ll Never Walk Alone ในหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์จะมีทีมใดที่มีแฟนบอลทั่วโลกเยอะมากขนาดนี้ ทีมสโมสรลิเวอร์พูลแห่งนี้เคยประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ของลีกอังกฤษ (ก่อนเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก) เป็นจำนวน 18 ครั้ง ยูโรเปียนคัพเป็นจำนวน 5 ครั้ง ยูฟ่าคัพเป็นจำนวน 3 ครั้ง ยูฟ่าซูเปอร์คัพเป็นจำนวน 3 ครั้ง และ ลีกคัพอีก 8 ครั้ง
สโมสรลิเวอร์พูลได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1892 ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเครื่องจักรสีแดงนั้น อยู่ในช่วงปี 1970-1980
Red Machine เป็นเครื่องหมายการค้าอย่างดีสำหรับลิเวอร์พูล การันตีได้จากความสุดยอดในการเปิดเกมรุกที่ดุดัน เป็นระลอกคลื่นที่ทรงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในยุค 80-90 เป็นยุคของสโมสรลิเวอร์พูลอย่างแท้จริง เป็นช่วงของคุณปู่ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ และ คุณปู่ บ๊อบ เพลสลี่ย์ ที่สร้างรากฐานอย่างชัดเจนในการบุกขยี้คู่แข่งอย่างไร้ความปราณี
อีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกความเป็นลิเวอร์พูล คือ Never Say Died คำแปลที่ตรงตัว คือ ไม่มีวันตาย หมายความว่าจะไม่ยกธงขาวเพื่อยอมแพ้ จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดหมดเวลา เรียกได้ว่าสู้ถวายชีวิตจนตัวตาย
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เข้าสู่ช่วงโศกนาฏกรรม ถึง 2 ครั้ง ในปี 1985 เป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกของโศกนาฏกรรม คือ เฮย์เซล หายนะชัยชนะที่เลวร้ายแลกมาด้วยน้ำตา ชั่วโมงที่มืดมิดที่สุดอีกหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป จากการทะเลาะกันของแฟนบอลทำให้อัฒจันทร์พังลงมา จนมีผู้เสียชีวิต 39 คน ทำให้ถูกสมาคมฟุตบอลยุโรปสั่งห้ามลิเวอร์พูลเข้าแข่งขันเป็นเวลา 6 ปี และ ทีมสโมสรอื่นๆของประเทศอังกฤษเป็นเวลา 5 ปี ในปี 1989 สิ่งที่เกิดในครั้งที่ 2 เป็นการเกิดขึ้นของ โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งของหนึ่งในหน้าประวิติสาสตร์ลิเวอร์พูล แฟนบอลจำนวน 96 คน เหยียบกันตาย เพราะไม่สามารถจุแฟนบอลได้อย่างเพียงพอ
You’ll never walk alone เกิดขึ้นจากการประพันธ์ดนตรีของ Richard Rodger แต่งและเรียบเรียงเนื้อร้องโดย Oscar Hammerstein II เพื่อใช้เล่นละครเพลงบอร์ดเวย์ ชื่อเพลงนี้ถูกใช้ประดับบนบานประตู Shankly Gates วันที่ 2 สิงหาคม 1982 เพื่อเป็นเกียรติ แก่ Bill Shankly ชื่อเพลงนี้จึงถูกนำไปใส่เป็นสัญลักษณ์ของทีมลิเวอร์พูลด้วย
ปี 1892 จอห์น โฮลดิง ต้องการสร้างทีมฟุตบอล จึงชวน จอห์น แมคเคนน่า มาทำหน้าที่ประธานสโมสรและได้ตั้งชื่อทีมฟุตบอลนี้ว่า Liverpool Football Club
ปี 1894 ลิเวอร์พูลได้เลือกสัญลักษณ์ของทีมเป็น นกลิเวอร์เบิร์ด
ปี 1901 ลิเวอร์พูล ครองแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก
ปี 1947 ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกเป็นทีมแรกหลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง
ปี 1954 ลิเวอร์พูลทำสถิติพ่ายแพ้รวดยับเยิน ตกดิวิชั่น
ปี 1962 ลิเวอร์พูลเลื่อชั้นกลับมาดิวิชั่นสูงสุด
ปี 1964 เป็นแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจากตกดิวิชั่น
ปี 1974 ลิเวอร์พูล ทำสถิติถล่มคู่แข่ง 11 ประตู
ปี 1985 โศกนาฏกรรมเฮย์เซล
ปี 1989 โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร
ปี 1990 ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก สมัยที่ 18 (แชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายก่อนเปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก)
ปี 2001 ลิเวอร์พูลได้แชมป์บอลถ้วย 3 ใบ (คาร์ลิ่ง ลีกคัพ, เอฟเอคัพ และ ยูฟ่าคัพ)
ปี 2005 มหัศจรรย์อิสตันบูล(ตามหลังเอซีมิลาน 3 ลูกและพลิกกลับมาตีเสมอ ก่อนเอาชนะด้วยการดวลจุดโทษ)
ปี 2010 NESV ซื้อกิจการของสโมสรลิเวอร์พูล
แอนฟีลด์สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1884 ก่อนหน้านี้เป็นสนามของทีมเอเวอร์ตัน แต่ภายหลังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จึงย้ายสนามไปกูดิสันพาร์ค จากนั้นกลายเป็นสนามฟุตบอลของทีมลิเวอร์พูลตั้งแต่นั้น สามารถจุผู้ชมได้ 20,000 คน (การแข่งขันครั้งแรกมีผู้เข้าชม 100 คน) ในปี 1900 แอนฟีลด์เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุด สามารถจุคนดูได้ 28,000 คน และเป็นอัฒจันทร์ยืนชั้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากเดิมสามารถรับผู้ชมได้ถึง 60,000 คน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร ในปี 1990ทำให้ยกเลิกการใช้งานอัฒจันทร์ยืนและปรับเป็นที่นั่งทั้งหมด เมื่อ ปี1992 ซึ่งตรงกับการครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งสโมสร อัฒจันทร์ใหม่ทางด้าน Kemlyn Road Stand ทำให้ลดความจุลงเหลือ 45,276 ที่นั่ง
ไมเคิล โอเวน ฉายา Baby Goal ผู้คว้าบัลลงดอร์ ตั้งแต่อายุ 22 ปี
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ นักเตะเพียงคนเดียวของ ลิเวอร์พูล ที่ยิงได้มากว่า 30 ประตูใน 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
เจมี คาร์ราเกอร์ ลงสนามให้ต้นสังกัดทั้งสิ้น 737 นัดรวมทุกรายการ
ซามี่ ฮูเปีย กองหลังภูเขาน้ำแข็ง ลงเล่นเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษของสโมสร
เฟร์นันโด ตอร์เรส ฉายา เอลนีโญ เจ้าของหน้าเป้าหมายเลข 9 ที่ดีที่สุดของสโมสร
สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานที่ถูกยกย่องให้เป็นผู้เล่นของสโมสร ลิเวอร์พูลที่ดีที่สุด อีกคนหนึ่ง 15 ปีในการค้าแข้ง คว้าแชมป์ 10 รายการ
ชาบี อาลอนโซ กองกลางเจ้าของฉายา คุณชายแห่งวงการลูกหนัง
หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมกัด อีกหนึ่งกองหน้าที่ยิงถล่มทลายกับสโมสร
ประเทศไทยให้ความสำคัญกับฟุตบอลในต่างชาติโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก จากการสำรวจทีมลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชาวไทยให้การสนับสนุนมากที่สุดจากสโมสรฟุตบอลอังกฤษทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 29.6 รองลงมาคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 19.77
ทีมสโมสรลิเวอร์พูลได้เดินทางมาแข่งขันกับประเทศไทยเป็นจำนวนทั้งหมด 6 ครั้ง ได้แก่
ปี 1986 ลิเวอร์พูลชนะทีมชาติไทย 3-0
ปี 2001 ลิเวอร์พูลชนะทีมชาติไทย 3-1
ปี 2003 ลิเวอร์พูลชนะทีมชาติไทย 3-1
ปี 2009 ลิเวอร์พูลเสมอทีมชาติไทย 1-1
ปี 2013 ลิเวอร์พูลชนะทีมชาติไทย 3-0
ปี 2015 ลิเวอร์พูลชนะทีมออลสตาร์ไทยพรีเมียร์ลีก 4-0
มิลอส เคอร์เคซ (Milos Kerkez) กองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปี ของทีม บอร์นมัธ (Bournemouth) ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขาโชว์ฟอร์มทั้งเกมรุกและเกมรับได้อย่างโดดเด่นกับทัพ “เทพีแดง-ดำ” ในช่วง 2 ซีซันที่ผ่านมา จนมีข่าวลือหนาหูว่าตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล (Liverpool) และ...[...]
วิคตอร์ เกียวเกเรส (Viktor Gyokeres) กองหน้าร่างยักษ์ทีมชาติสวีเดนของทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน (Sporting CP) เขาถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในฤดูกาล 2024/25 จนได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ในยุโรปหลายทีม โดยเฉพาะสองยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ลีก...[...]
ลูคัส แบร์กวาลล์ (Lucas Bergvall) กองกลางดาวรุ่งทีมชาติสวีเดนของสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (Tottenham Hotspur) เขาคนนี้เลือกที่จะบอกปัดข้อเสนอของ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลิกา สเปน เพื่อย้ายมาเข้ารัง “ไก่เดือยทอง” เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2024/25 ที่ผ่านมา...[...]
เบรนแนน จอห์นสัน (Brennan Johnson) อดีตกองหน้าตัวเก่งของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest) ที่ถูกทัพ “ไก่เดือยทอง” ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2024 และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเกินคาดจนแฟนๆ ต่างยกให้เขาเป็นตัวตายตัวแทนของ “ซน ฮึง-มิน” (Son Heung-min)...[...]
คริส วู้ด (Chris Wood) หอกจอมเก๋าวัย 33 ปี ชาวนิวซีแลนด์ เขาคนนี้นอกจากจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาตินิวซีแลนด์แล้ว ยังเป็นผู้เล่นที่เคยค้าแข้งกับสโมสรในอังกฤษมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 สโมสร ในช่วงพีคๆ เขาเคยโด่งดังสุดๆ กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด (Leeds United)...[...]
©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.