นักเตะที่เป็นที่กล่าวขานสำหรับยุคนี้ Lionel Andres Messi Cuccittini หากเลือกกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก อาจจะเป็น Ronaldo แต่ถ้าหากต้องเลือกนักเตะที่ดีที่สุดในโลก บอกได้เลยว่าปัจจุบันนี้มีเพียงคนเดียว คือ Lionel Messi หลังจากที่มีคนอยากเปรียบเทียบ Pele กับ Maradona ในยุคสมัยที่แตกต่าง ปรากฏให้เห็นบนร่างนักเตะมหัศจรรย์ “ลิโอเนล เมสซี่” ที่กลายเป็นตำนาน
เมสซี่เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มาก บนเส้นทางในการค้าแข้ง ชีวิตของของเมสซี่ไม่ได้สวยหรู โชคชะตามักเล่นตลกกับเรื่องราวแบบนี้ เนื่องจากเมสซี่มีปัญหาในด้านการเจริญเติบโตของร่างกาย เพราะขาดฮอร์โมนสำหรับการพัฒนา และ ภายในประเทศอาเจนติน่าไม่สามารถรักษา เหมือนฟ้าประทานแสงสว่างมาให้ การ์เลส เรซัค ผอ.กีฬาของบาร์เซโลนา ประทับใจกับฟอร์มการเล่นของเมสซี่เป็นอย่างมาก จึงยื่นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมด้วยการให้ย้ายไปอาศัยในบาร์เซโลนา พร้อมเข้าทีมสโมสร และจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้
เครื่องจักรแห่งปี 87 เป็นฉายาของ Messi และ เพื่อนร่วมทีมในชุดการแข่งขันเยาวชน เนื่องจากไม่เคยแพ้ในรายการใดเลย นักเตะร่างเล็กมีรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย นอกจากจะเป็น Striker และ ยังเป็น Playmaker ในบางเวลา เรียกได้ว่าเขาเป็นศูนย์กลางของของทีมบาร์เซโลนา
นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปั่นลูกยิงตั้งเตะเป็นอาวุธที่น่าสะพรึงกลัว
ทักษะการครองบอล เมสซี่มีกล้ามเนื้อขา และ แขนที่สมดุลกันมาก การเลี้ยงบอลติดกับเท้าเหมือนพรสวรรค์ฟ้าประทาน มีความคล่องตัวและการวิ่งที่รวดเร็ว ทั้งยังมีการทักษะที่หลากหลาย ในยามที่ครองบอลหรือไม่ได้ครองบอลเขาก็น่ากลัวเสมอ เช่น การทำทาง การวิ่งไปยังพื้นที่ว่าง การวิ่งไปรอเพื่อรับบอล
วิสัยทัศน์ทางบอลการเดาวิธีคิดของเมสซี่เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากทักษะของเขามีความหลากหลาย ส่งบอลสั้นยาวได้อย่างสมดุล เลี้ยงบอล
ส่วนตำแหน่งที่ เมสซี่ ถนัดและชำนาญ คือ ริมเส้นฝั่งซ้าย หากได้อยู่ในเขตพื้นที่สังหาร รับรองได้ว่าอาจจะเกิดประตูอย่างแน่นอน
การทำประตูเมสซี่ มีความเร็วที่เป็นอันตราย มีทักษะการครองบอลที่เป็นเลิศ และ ยังมีความแม่นยำในการทำประตูที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ความอันตรายที่ครบเครื่องทำให้เขาดูราวกับ ผู้ที่จะมอบความพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามได้ตลอดเวลา สร้างสถิติมากกว่า 30 ประตูติดต่อ 7 ฤดูกาล ทำแฮตทริคมากกว่า 38 ครั้ง และยังสามารถยิงประตูได้ถึง 82 ประตูใน 1 ฤดูกาล (2011/12) ทำประตูไปมากกว่า 600 ประตู กลายเป็นสถิติสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมสซี่เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ปี และยังมีพ่อเป็นโค้ชฟุตบอลให้ด้วย แม้ว่าเส้นทางด้านฟุตบอลของเมสซี่จะไม่ได้ราบรื่น แต่เขาก็เป็นยอดนักสู้ตัวจริง เมื่ออายุ 11 ปีเขาประสบปัญหาเรื่องขาดฮอร์โมนเจริญเติบโต จึงเป็นเหตุให้เขาต่อสู้และดิ้นรนในการก้าวขึ้นเป็นยอดสตาร์ของทีม
ในปี 1994-2000 เล่นให้กับ สโมสรเยาวชนนิวเวลส์โอลด์บอยส์
ในปี 2001-2004 เล่นให้กับ สโมสรเยาวชนเซบียาบาร์เซโลนาและบาร์เซโลนา เซ
ในปี 2004-2005 เล่นให้กับ บาร์เซโลนา เบ
ในปี 2005-ปัจจุบัน เล่นให้กับ บาร์เซโลนา
นิวเวลส์โอลด์บอยส์ สร้างตำนาน เครื่องจักรแห่งปี 87 (The Machine of 87) เพราะคนในทีมทั้งหมดเกิดในปี 1987
บาร์เซโลนา สร้างตำนานการเซ็นสัญญาด้วย ผ้าเช็ดปาก กลายเป็นตำนานสัญญาผ้าเช็ดปากที่ยังคงพูดถึงกันอยู่ในปัจจุบัน เมสซี่ได้รับอนุญาตให้สามารถลงแข่งขันเกมฟุตบอลยุโรปอย่างเป็นทางการในปี 2002 เมสซี่ จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของ เบบี้ ดรีมทีม ที่มี ฌาราร์ ปิเก และ เซสก์ ฟาเบรกัส การแข่งขันที่กลายเป็นเรื่องที่หลายๆ คนจดจำ คือ ในรอบแข่งขันนัดชิงชนะเลิศถ้วยกาตาลาคัพ เมสซี่ใส่หน้ากากลงแข่งขัน และ เอาชนะเอสปัญญอลได้ 4-1 ในฤดูกาล 2002/03
บาร์เซโลนา เซ
ลงเล่นให้กับทีม ที่เป็นเสมือนมีไว้สำหรับทดสอบ นักเตะของ บาร์เซโลนา ว่าจะเหมาะสมกับการขึ้นไปเล่นทีมสำรองหรือทีมชุดใหญ่ได้หรือไม่ เมสซี่ ทำ 18 ประตู จากการลงสนาม 11 นัด จึงถูกเรียกไปซ้อมทีมกับทีมชุดใหญ่อยู่บ่อยครั้ง
เมสซี่ลงแข่งเป็นทางการครั้งแรก กับ ทีมชุดใหญ่ทั้งๆที่ยังเล่นให้กับ บาร์เซโลนา เซ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2003 อายุ 16 ปี 145 วัน เป็นการแข่งกระชับมิตรกับ ปอร์ตู
บาร์เซโลนา เบ
ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมสำรอง ในฤดูกาล 2004/05 ไม่นานเท่าไร เพราะหลังจากนั้นเขาถูก ฟรังก์ ไรการ์ด เรียกให้ไปอยู่ในทีมชุดใหญ่
บาร์เซโลนา
เมสซี่เป็นตำนานของทีม บาร์เซโลนาอย่างแท้จริง
ฤดูกาล 2005/06 เมสซี่เล่นประสานกับ โรนัลดินโญ และซามุแอล เอโต จบฤดูกาลด้วยการเป็นทีมชนะเลิศในลาลิกาและแชมเปียนส์ลีก
ฤดูกาล 2006/07 ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2006 เป็นครั้งแรก ติดอันดับ 20 ยิงแฮตทริกในการแข่งขันเอลกลาซิโก โดยที่มีผู้เล่นเพียง 10 คน ในการแข่งรอบรองของถ้วยโกปาเดลเรย์ กับ เคตาเฟ เมสซี่โชว์การเล่นลีลาเช่นเดียวกับ มาราโดนา ในการหลบคู่ต่อสู้ 6 คน รวมผู้รักษาประตู ในการเล่นกับ แอร์ราเซเด อัสปัญญอล ด้วยการทำประตูแบบเดียวกับ มาราโดนา ทำ สื่อสเปนเรียกเมสซี่ว่า “เมสซิโดนา”
ฤดูกาล 2007/08 ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2007 จบลงที่ เมสซี่ได้อันดับ 3 ถึงแม้ว่าเขาจะบาดเจ็บเป็นเวลาถึง 6 สัปดาห์
ฤดูกาล 2008/09 โรนัลดินโญ ออกจากสโมสร เมสซี่ใส่เบอร์ 10 แทน ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2008 จบลงที่ เมสซี่ได้อันดับ 2 เมสซี่ยิงแฮตทริกในโกปาเดลเรย์ ในการแข่งกับอัตเลติโกมาดริด การแข่งกับราซิงซานตันเดร์ ประตูที่ 2 ของเขา คือ ประตูที่ 5000 ในลีกของสโมสรบาร์เซโลนา การแข่งขันแชมเปียนส์ลีก เมสซี่ เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ทำประตูได้ 9 ประตู ประตูสูงสุดในแชมเปียนส์ลีก และ ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ เมสซี่ได้รับรางวัลผู้เล่นลาลิกาแห่งปี
ฤดูกาล 2009/10 เมสซี่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2009 ยิงประตูที่ 100 ให้กับสโมสร และ เมสซี่ ยิงประตูได้ 38 ประตูในหนึ่งฤดูกาล เทียบเท่ากับ เทลโม ซาร์ร่า (แอธเลติก บิลเบา)ในปีนี้เมสซี่ได้รับรางวัลผู้เล่นลาลิกาแห่งปี เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน และ ได้รางวัลรองเท้าทองคำ
ฤดูกาล 2010/11 เมสซี่ได้รับรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ปี 2010 สร้างสถิติยิงประตูได้ 9 นัดติดต่อกัน ในรายการยูฟาแชมเปียนส์ลีก เมสซี่ พาบาร์เซโลนาเป็นสมัยที่สามในรอบหกปี และ เป็นครั้งที่ 4 ของประวัติศาสตร์สโมสร เมสซี่ กลายเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลเดียวของบาร์เซโลนา จำนวน 50 ประตู
ฤดูกาล 2011/12 เมสซี่ได้รับรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ปี 2011 สร้างสถิติ ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ 3 ปีซ้อน ทำลายสถิติของแกร์ท มึลเลอร์ ด้วยการยิง 68 ประตู ใน 1 ฤดูกาล
ฤดูกาล 2012/13 เมสซี่ทำสถิติ เป็นดาวซัลโวใน 1 ปีปฏิทิน 91 ประตู และ เป็นการได้รับรางวัลบัลลงดอร์ครั้งที่ 4 ติดต่อกัน เป็นผู้ทำประตูทุกนัด ลีกสูงสุดของยุโรป 21 นัดติดต่อกัน กับ 46 ประตู และรางวัลรองเท้าทองคำ ครั้งที่ 3
ฤดูกาล 2013/14 เมสซี่ทำลายสถิติยิงประตูนอกบ้าน ครบ 100 ประตู แทนเจ้าของสถิติเดิม อูโก ซานเซช (99 ประตู) เมสซี่ ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดในเกม เอลกลาซิโก (21 ประตู) เข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2013 จบลงที่ เมสซี่ได้อันดับ 2
ฤดูกาล 2014/15 เมสซี่ยังคงมีชื่อเข้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2014 และคว้าอันดับที่ 2 ทำประตูให้กับสโมสรเดียวได้ 400 ลูก ทำสถิติแอสซิสต์สูงสุดในลาลิกา 108 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมของ ลูอิช ฟีกู (107 ครั้ง) ฤดูกาลนี้ เมสซี่พาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เมสซี่เคยทำได้ในปี 2009
ฤดูกาล 2015/16 เมสซี่ได้รับรางวัล ฟีฟ่าบาลงดอร์ ปี 2015 เป็นรางวัล บัลลงดอร์ สมัยที่ 5 ใน ฤดูกาลนี้ เมสซี่เปลี่ยนสไตล์การเล่นจากการเป็นผู้ที่เลือกจะทำประตูเพียงอย่างเดียว ด้วยการเป็นผู้ที่เน้นการทำเกม และ ส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น (Playmaker) กลายเป็นความน่ากลัวสำหรับทุกๆทีม เสมือนว่ามีกุนซือเพิ่มอีกหนึ่งคนในสนาม 17 เมษายน เมสซี่ทำประตูที่ 500 จากการแข่งขันที่เป็นทางการ(สโมสรและทีมชาติ)
ฤดูกาล 2016/17 เมสซี่เปลี่ยนลุคด้วยการทำสีผมซุปเปอร์ไซย่า หรือ สีแพลทตินั่มบลอนด์ กลายนักฟุตบอลที่ได้แชมป์กับบาร์เซโลนามากที่สุด (30 แชมป์) เมสซี่เป็นเป็นอันดับ 1 ในตารางนักเตะ Top Player ของฤดูกาล
ฤดูกาล 2017/18 เมสซี่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของสุดยอดนักเตะในประวัติศาสตร์การแข่งขันลาลิกา สเปน เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในลำดับ 1 – 15 ที่ยังเล่นอยู่ในปัจุบัน (คริสเตียโน โรนัลโด อยู่อันดับ 17) เมสซี่ได้รับการโหวตเป็นอันดับ 1 ของกองหน้าที่ดีที่สุดของทีมยอดเยี่ยม
ในฤดูกาล 2018-2019 เลโอ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เขานำทัพ อาซูลกราน่า เถลิง แชมป์ลาลีกา ได้อย่างสบาย นั้นก็เพราะการย้ายทีมของ โรนัลโด้ ที่ตัดสินใจ อำลา ราชันชุดขาว ทำให้คู่แข่งในการลุ้นดาวซัลโวคนสำคัญหายไปด้วย เมสซี่สามารถครองดาวซัลโวใน ฤดูกาล 2018-19 ด้วยจำนวนประตู 36 ประตู พ่วงอีก 1 รางวัล คือ การแอสซิตส์สูงสุด ด้วยจำนวน 13 แอสซิตส์
ในฤดูกาล 2019-2020 เดอะ แบก เจ้าบุญทุ่ม เมสซี่ ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง แต่ผลงานของทีมกลับไม่เป็นใจ เขาไม่สามารถพาทีมป้องกันแชมป์ลีกได้ ต้องเสียแชมป์ไปให้กลับ คู่อริตลอดกาล อย่าง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แต่ เมสซี่ ยังสนมารถครองดาวซัลโว ซัดไป 25 ประตู กับอีก 21 แอสซิตส์
ในฤดูกาล 2020-2021 ใครจะเชื่อว่านี้คือ ฤดูกาลสุดท้ายของ เมสซี่ ในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า หลังจากพาทีมจบ อันดับ 3 ของตาราง และครองดาวซัลโว ด้วยจำนวนประตู 30 ประตู บาร์เซโลน่า ไม่สามารถต่อสัญญากับ เมสซี่ ได้เพราะติดเพดานการเงินของสโมสร ที่ติดตัวแดงมาหลายฤดูกาล จากการซื้อที่ผู้เล่นที่แพง แต่ผลงานกลับไม่ปังทำให้ เจ้าบุญทุ่ม จำใจต้องปล่อย เมสซี่ ออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว และนั้นคือความเจ็บปวดของ เมสซี่ ที่ต้องจำยอม ออกจากบ้านที่เขารักมากที่สุด บ้านให้ทุกอย่างสำหรับตัวเขา
เบอร์และสีเสื้อที่แปลกตา การมาของ ลิโอเนล เมสซี่ สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากเจ้าตัวย้ายทีมมาแบบไม่มีค่าตัว เพื่อมาสานฝันให้กับ PSG คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก และเป็นเป้าหมายเดียวกันกับเจ้าตัว ที่ต้องการคว้าแชมป์ UCL ให้ได้อีกสักครั้ง การมาของ เมสซี่ ในรายการใหญ่ ทำให้ PSG ถูกยกให้เป็น เต็ง 2 เพราะขุมกำลังของทัพนั้น เต็มไปด้วยนักเตะระดับท็อปๆ ของโลก
สำหรับยอดนักเตะเจ้าของสถิติราชาฟุตบอลโลกอย่างสโมสร อินเตอร์ ไมอามี่ ได้ออกมายืนยัน แถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะเดินทางไปร่วมเล่นใน สโมสรอินเตอร์ไมอามี่ โดยเป็นสโมสรในเมเจอร์ลีกแห่งสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการแถลงโดยตรงจากตัวเขาเองกับสื่อบาร์เซโลน่า ซึ่งในการตัดสินใจครั้งนี้ก็เป็นอะไรที่ยืนยันแบบ 100%
ซึ่งสำหรับยอดนักเตะวัย 35 ปี อยากใช้ชีวิตช่วงปลายทางชีวิตนักฟุตบอล แล้วถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 27 ปีของ Major League สหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยหลังจากนั้นเพียงไม่นานทางด้านอินเตอร์ไมอามี่ ก็ออกมาประกาศเลยว่าสามารถคว้าตัวของนักเตะคนดังกล่าวนี้ได้อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะได้ค่าเหนื่อยอยู่ประมาณ 54 ล้านเหรียญหรือ 50 ล้านยูโรต่อปีเป็นเวลา 4 ปีด้วยกันตลอดรวมไปจนถึงข้อตกลงกับสปอนเซอร์แบรนด์ดังต่างๆ อาทิเช่น Apple Adidas ที่จะเป็นแกนนำหลักตัวช่วยในการจ่ายค่าเหนื่อยของเขา ซึ่งเป็นอะไรที่วิเศษมากกับการต้อนรับนักเตะระดับโลกคนนี้ สู่ดินแดนลุงแซม
จนถึงตอนนี้สำหรับตัวของ ลิโอเนล เมสซิ ยังได้มีการโชว์ฟอร์มความฮอตฝีเท้าร้อนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวในฝั่งของอเมริกา เขาเป็นเหมือนพระเจ้าในทันทีเมื่อได้ไปเล่นที่นั่น ทำเอาบรรดาแฟนคลับทีมสโมสรตามมาเชียร์ส่งเสียงเรียกหา King Messi อยู่ตลอดเวลา
หากถามว่า เมสซี่ หรือ มาราโดน่า ใครที่มีฝีเท้าเหนือกว่ากัน ใครเก่งกว่ากัน หรือใครเป็นเบอร์ 1 ของทัพฟ้า-ขาว นี่อาจจะเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เนื่องจากทั้งคู่ได้เกิดมาคนละยุคคนละสมัย แต่ด้วยรูปแบบและสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน ทำให้หลายคนมักเปรียบเทียบและตั้งคำถามว่า เมสซี่ก้าวข้าม “เสือเตี้ย” มาราโดน่า ไปแล้วหรือยัง ตลอดหลาย 10 ปีมานี้ตั้งแต่วงการฟุตบอลให้กำเนิดชายที่มีพรสรรค์อันเปี่ยมล้นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่
เขาก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกโดยทันที การันตีด้วยรางวัลบัลลง ดอร์ 5 สมัย เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้ครองรางวัล บัลลง ดอร์ ถึง 5 สมัยด้วยกัน แต่นั้นก็ไม่ใช่คำตอบที่จะตัดสินได้ว่าใครเหนือกว่ากัน เนื่องจากจะมีคำถามกลับมาเสมอว่า “เป็นเพราะ มาราโดน่า ไม่ได้เกิดและลงเล่นในยุคนี้ต่างหาก”
เมื่อเทียบกันในด้านของรางวัลและถ้วย หลายคนอาจมองว่า ลิโอเนล เมสซี่ คว้ารางวัลได้มากมายกว่า มาราโดน่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ เมสซี่ ยังคงทำไม่ได้และยังไม่สำเร็จคือการ “คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก” หรือการประสบความสำเร็จนามทีมชาติ ทำให้ มาราโดน่า ถูกมองว่ามีภาษีที่ดีกว่า ลิโอเนล ชัดเจน เพราะตลอดเวลาที่รับใช้ชาติของ เมสซี่ เขาทำได้เพียงเข้าใกล้ถ้วยแชมป์เท่านั้น ปัจจุบันไม่สามารถพาทัพฟ้าขาวเถลิงบัลลังก์แชมป์ได้เลย
แม้ว่าบนเส้นทางสายนักเตะของเมสซี่จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในนามทีมชาติ แต่เมสซี่เป็นนักฟุตบอลที่อายุน้อยที่สุดในฟุตบอลโลก 2006 ที่ยิงประตูได้ โคปาอเมริกา 2007 เมสซี่พาอาร์เจนตินาไปรอบชิง แต่พ่ายให้กับบราซิล โอลิมปิกฤดูร้อน 2008 เมสซี่พาอาร์เจนตินาได้เหรียญทอง
ฟุตบอลโลก 2010 จบด้วยการแพ้ให้กับเยอรมนี 4–0 โคปาอเมริกา 2011 อาร์เจนติน่าพ่ายให้กับอุรุกวัย ฟุตบอลโลกปี 2014 อาร์เจนติ พ่ายกับ เยอรมันในรอบชิงชนะเลิศคว้าได้เพียงรองแชมป์ โคปาอเมริกา 2015 และ 2016 เมสซี่ทำได้เพียงพาอาร์เจนติน่าเป็นรองแชมป์ 2 สมัยติดโดยพ่ายให้กับ ชิลีทั้ง 2 ครั้ง ปัจจุบันเมสซี่ลงแข่ง 128 นัด กับ 65 ประตู ถึงแม้ว่าจะประกาศหยุดเล่นในนามทีมชาติแล้ว แต่หลายๆ คนก็ยังคงคาดหวังว่าจะได้เห็นการกลับมาในสีชุดฟ้าขาวอีกครั้งของเมสซี่
ศึกโคปาอเมริกา ปี 2007 ทัวร์นาเม้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ เมสซี่ กับทีมชาติอาร์เจนตินา เขาพาทีมชาติเป็นรองแชมป์ หลังโดน บราซิล ถล่มเละไปแบบ 3-0 และนั้นคือจุดเริ่มต้นของความผิดหวังที่จะตามหลอกหลอนเขาไปอีกกว่า 10 ปี
ถัดมาอีก 7 ปี ในศึกฟุตบอลโลก 2016 เมสซี่พาพลพรรคฟ้าขาวทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และเป็นนาทีที่เมสซี่ต้องการและคาดหวังมากที่สุด เวลานั้นเขาพร้อมมากๆ ที่จะคว้าแชมป์ หลังจากที่ทุกคนต่างยกให้เขาเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการฟุตบอล หากเขาสามารถชูถ้วยแชมป์โลกได้สำเร็จ เมสซี่ จะเป็นตำนานที่สมบูรณ์แบบ พ้นร่มเงาของ มาราโดน่า แต่สุดท้าย อาร์เจนตินา พ่ายต่อ เยอรมนี ไป 0-1 นับว่าเป็นวันที่น่าผิดหวังของแฟนบอลทั่วโลก ไม่ใช่แค่คนในชาติอาร์เจนตินาเท่านั้น เพราะมีแฟนบอลจำนวนไม่น้อยต่างส่งใจเชียร์ยอดนักเตะรายนี้อยู่
หลังจากผิดหวังในศึกฟุตบอลโลก 2014 แบบทำใจยอมรับยาก แฟนบอลของประเทศตนเอง รวมถึงสื่อต่างๆ โจมตีผู้เล่นของทีมชาติอาร์เจนตินาทั้งหมด แต่ที่โดนหนักหน่วงที่สุดก็หนีไม่พ้นนักเตะเบอร์ 1 ของทีมและเป็นความหวังของคนในชาติอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เขาตัดสินใจอำลาทีมชาติทันทีหลังถูกโจมตี ก่อนที่ทนความกดดันไม่ไหวจากการที่คนในชาติเรียกร้องให้ เมสซี่ กลับมาติดธงฟ้าขาวอีกครั้ง
จนสุดท้ายเขาตัดสินใจกลับลงเล่นให้ทีมชาติมาอีกครั้งกับทัวร์นาเม้น โคปาอเมริกา ปี 2015 เขาหมายมั่นปั้นมืออย่างมากที่จะชูถ้วยแชมป์กับทีมชาติ จนเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เจอกับทีมชาติชิลี แต่สุดท้ายพ่ายแพ้จุดโทษไป 4-1 ก่อนที่ปีถัดมากับศึก โคปาอเมริกา อีกครั้ง และเป็นนัดชิงที่ต้องกลับมาพบกับทีมชาติชิลีรอบที่ 2 และเป็นอีกครั้งที่เมสซี่ต้องผิดหวัง เพราะสุดท้ายแล้วอาร์เจนตินาแพ้จุดโทษเหมือนเช่นเดิมที่ 4-2 และทำให้เมสซี่จึงตัดสินใจประกาศเลิกเล่นทีมชาติเป็นครั้งที่ 2
การขาดยอดนักเตะอันดับ 1 ของโลก หลังประกาศอำลาทีมชาติ ส่งผลให้อาร์เจนตินา ต้องลงเล่นไม่มีกัปตันทีมคนเดิมของพวกเขา อาร์เจนตินา ที่ไม่มี ลิโอเนล ทำให้ฟอร์มตกลงอย่างชัดเจน ทั้งการแข่งอุ่นเครื่อง และลงเล่นรอบคัดเลือกเพื่อหาตัวแทนไปฟุตบอลโลก 2018 โซนอเมริกาใต้ มีกุนซือมากฝีมืออย่าง ฮอร์เก ซามเปาลี คุมทัพ
ทำให้แม้ เมสซี่ จะประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้วก็ตาม เขาถูกทุกคนกดดันและตามกลับไปช่วยทีมอีกครั้ง แต่นั้นทำให้เขาตัดสินใจกลับไปสวมยูนิฟอร์มฟ้าขาว ก่อนที่จะพาทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียได้สำเร็จ
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาต้องชนเข้ากับความผิดหวังเต็มๆ อาร์เจนตินา ภายใต้การภายใต้การนำทัพของ ฮอร์เก ซามเปาลี หลังจากทัวร์นาเม้นเริ่มขึ้น มีเรื่องวุ่นวายมากมาย หลังลงแข่งนัดแรก พวกเขาก็เสมอกับทีมชาติไอซ์แลนด์ไป 1-1 ต่อมาในนัดที่ 2 พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติโครเอเชียย่อยยับ 0-3 และนั้นคือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย
มีข่าวมากมายบอกว่านักเตะไม่ปลื้มกับการคุมทีมของ ฮอร์เก ซามเปาลี โดยเฉพาะในเรื่องของแทคติก โดยเฉพาะกองหน้าของทีมอย่าง กุน อเกวโร่ ที่มีปัญหากับตัวกุนซือ ก่อนที่จะเข้ารอบ 16 ทีมท้ายอย่างยากเย็น
สุดท้ายทัพฟ้าขาวไปจอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย พ่ายแพ้ให้แก่ทีมชาติฝรั่งเศส 4-3 ทำให้ครั้งนี้อาจจะเป็นการลงเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายของเมสซี่ ร่วมถึงมันจะเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจของดาวเตะเบอร์หนึ่งของโลกรายนี้ เนื่องจากเขาไม่เคยได้ชูถ้วยแชมป์กับทีมชาติชุดใหญ่เลยสักครั้ง
หลายคนมองว่าหากเมสซี่เลิกรับใช้ชาติจริงๆ โดยที่ยังไม่เคยได้แชมป์นามทีมชาติ เส้นทางการค้าแข้งของเขาคงจะไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญคู่แข่งตลอดกาลของเขาอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ยังดูเหนือกว่าและดูมีภาษีดีมากกว่า เพราะสามารถพาโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโรได้สำเร็จไปแล้วเมื่อปี 2016 นั่นเอง
เลโอเนล เมสซี่ ทำความฝันของตัวเองในนาม ทีมชาติได้สำเร็จ หลังพา อาร์เจนติน่า ชนะ เจ้าภาพ บราซิล 1-0 คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2021 ไปครอง หลังจากผิดหวังเข้าชิงชนะเลิศมาแล้ว 4 ครั้ง ทำได้เพียงแค่ รองแชมป์ ถึง 4 ครั้ง ความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ เมสซี่ ผงาดคว้า รางวัล บัลลงดอร์ 2021 เป็นสมัยที่ 7ของเจ้าตัวอีกด้วย
Lionel Messi ถูกจัดได้เลยว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งอาร์เจนตินา ซึ่งเขาคนนี้เป็นอะไรที่ดวงมาแรงเป็นที่สุดที่ทำให้ประเทศของตนนั้นได้ก้าวสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ในการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ฟุตบอลโลก 2022 นัดล่าสุดไปครองได้แบบสมศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง
Messi เป็นเด็กหนุ่มอัจฉริยะไม่ธรรมดา และสามารถที่จะกลายเป็นดาวเด่นระดับเยาวชนของ บาซ่า ก่อนดันขึ้นไปสู่เจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงให้บาซ่าได้ในวัย 17 ปี 10 เดือนพร้อมเดินหน้าคว้าแชมป์มามากมายไม่จะเป็นเป็น ลาลีกา ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ตลอดจนแชมป์สโมสรโลกและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเขาสามารถทำได้อย่างเหลือเชื่อ แต่เขาคนนี้กลับเป็นคล้ายกับเจ้าชายที่ไร้มงกุฎราชาอยู่ หากอยากให้เติมเต็มต้องได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาครองให้ได้
จนกระทั่งศึกฟุตบอลโลกผลล่าสุดในดินแดนแห่งอาหรับ และแล้วความฝันของเขาก็กลายเป็นจริงกับการนำทีมอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งจัดได้ว่าเป็นช่วงบั้นปลายของชีวิตนักเตะที่โลกควรจะต้องจดจำ
ลิโอเนล เมสซิ ได้โชว์ฟอร์มกระหึ่มโลกในนัดชิงชนะเลิศ อาร์เจนตินา ได้เอาชนะทีมชาติฝรั่งเศส ในช่วงสุดท้ายจุดโทษชนะไปแบบสนุกสุดมันส์ 4 ต่อ 2 ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเสมอกัน 120 นาที จนสามารถคว้าแชมป์บอลโลกมาครองได้อย่างสำเร็จงดงาม ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ที่แจ้งเกิดชื่อใหม่อย่างแท้จริงในนามว่า King Messi
โดยก่อนนั้นก็ยังทำสถิติลงเล่นฟุตบอลโลกมากที่สุดถึง 26 นัดแซงหน้าของ โลธาร์ มัทเธอุส ตำนานทีมชาติเยอรมันที่เคยทำไว้เพียงแค่ 25 นัดอีกด้วย โดยที่สำคัญในตอนนี้เขายังสามารถพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไปกับการเปิดชื่อเสียงของตัวเองในฟากฝั่งของเมืองลุงแซมให้ได้จุดประกายทำให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่กับฟุตบอลลีกในประเทศอเมริกาแบบสุดขีดกันเลยทีเดียว ไปอยู่สโมสร อินเตอร์ ไมอามี่ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในปัจจุบัน
เมสซี่มีข่าวคบหากับมาซาเรนา เลโมส มีข่าวความสัมพันธ์กับนางแบบชาวอาร์เจนตินา ลูเซียนา ซาลาซาร์ แต่ครั้งเดียวที่เมสซี่บอกว่าเขามีความรักต่อหน้าสาธารณชน คือ อันโตเนลา โรกูโซ เพื่อนสนิทในวัยเด็ก และ เริ่มคบหากันตั้งแต่ปี 2008 ในปี 2012 โรกูโซได้ให้กำเนิดบุตรชาย เมสซี่ กลายเป็นพ่อคนครั้งแรก ในปี 2015 เมสซี่ได้ลูกคนที่ 2 และ ในปี 2017 เมสซี่ได้ลูกคนที่ 3 ทำให้เมสซี่จัดงานแต่งงานในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2017
สำหรับ ลิโอเนล เมสซี่ นับว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีส่วนร่วมกับองค์กรช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์รอบโลกมากมาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับ ให้ทุนพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็ก, บริจาคเงินเพื่อทางการแพทย์, ทุนการศึกษาและสร้างโรงเรียนแก่ประเทศที่ขาดแคลน รวมถึงยังเป็นทูตให้กับทางองค์กร UNICEF อีกด้วย ดังเช่น
เมสซี่ บริจาคเงินให้กับองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ตั้งแต่ปี 2004
เมสซี่ ก่อตั้งมูลนิธิเลโอ เมสซี่ องค์กรการกุศลในด้านการศึกษา สุขภาพ และกีฬา ในปี 2007
เมสซี่ บริจาค ทุนวิจัยสำหรับการฝึกอบรมทางการแพทย์
เมสซี่ เป็นทูตสันถวไมตรีจากยูนิเซฟในปี 2010
เมสซี่ บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนฟุตบอลเยาวชนในอาร์เจนติน่า ในปี 2012
เมสซี่ ชนะคดีหมิ่นประมาท ได้รับเงินค่าชดเชยจำนวน 65,000 ยูโร บริจาคให้องค์กรการกุศลแพทย์ไร้พรมแดน ในปี 2016
เมสซี่ สร้างศูนย์วิจัยและรักษาโรคมะเร็งเด็กในเมืองบาร์เซโลนา ในปี 2017
นอกจากที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ยังมีการช่วยเหลือผู้อื่นแบบส่วนตัวแบบไม่ผ่านองค์กร ด้วยการควักเงินรายได้ส่วนตัวมอบให้แก่ผู้ที่เดือดร้อนอย่างนี้โดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลของเขาที่ต้องการความช่วยเหลือ, ช่วยออกเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล, ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ เป็นต้น
ชื่อเต็ม : ลิโอเนล อันเดรส เมสซี่ กูซิตินิ (Lionel Andres Messi Cuccittini)
วันเกิด : 24 มิถุนายน 1987
สถานที่เกิด : โรซาริโอ , ประเทศอาร์เจนติน่า
ส่วนสูง : 169 ซม.
ฉายา : เมสซิโดน่า, ลีโอ, ต่างดาว
ตำแหน่ง : กองหน้าตัวต่ำ, กองกลางตัวรุก
นักฟุตบอลยอดเยี่ยม ลูกบอลทองคำ หรือ FIFA Ballon d’Or (ฟีฟ่า บัลลงดอร์) สุดยอดยรางวัลส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนักฟุตบอล นักเตะ โดยจะต้องแข่งขันกับนักเตะทั่วโลก ด้วยความสำเร็จในปีนั้น และฟอร์มการเล่นที่สุดยอด นับว่าเป็นรางวัลที่นักฟุตบอลต้องการสัมผัสสักครั้ง เดิมทีผู้ที่คว้ารางวัลนี้สูงที่สุดคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo) และ ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) เท่ากันที่ 5 สมัย
นับว่าทั้งคู่ขับเคี้ยวด้วยกันมาโดยตลอด แต่ล่าสุดในปี 2019 ลิโอเนล เมสซี สามารถทำ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ผงาดคว้าบัลลงดอร์สมัยที่ 6 ของตัวเองได้สำเร็จ ส่งให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่คนแรก ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้สูงที่สุด และเป็นคนแรกที่ได้ไปถึง 6 สมัย คือปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019
ยังคงสร้างสถิติ ต่อเนื่อง สำหรับ เลโอเนล เมสซี่ สามารถคว้า บัลลงดอร์ สมัยที่7 เป็นของตัวเอง หลังจากเพื่อนร่วมอาชีพโหวตให้เขามาเป็นอันดับ 1ด้วยผลงานพา อาร์เจนติน่า คว้า แชมป์ โคปา อเมริกา 2021 เฉียด โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ตามมาเป็น อันดับที่ 2 ไป 33 คะแนน ถ้าปี 2020 มีการมอบรางวัล เลวาน คือคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้รางวัลนี้ไปครอง ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ จอร์จินโญ่ ที่พา เชลซี คว้าแชมป์ UCL และทีมชาติอิตาลี ครองเจ้า ยุโรป
ลิโอเนล เมสซี สามารถทำ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ผงาดคว้า บัลลงดอร์ สมัยที่ 7 ของตัวเองได้สำเร็จ ส่งให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่คนแรก ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้สูงที่สุด และเป็นคนแรกที่ได้ไปถึง 7สมัย คือปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019,2021 สถิตินี้ยากที่ใครจะมาทำลายได้ลง
สถิติอันบ้าคลั่งสำหรับชายผู้เป็นตำนาน Lionel Messi เขาสามารถคว้า บัลลงดอร์ สมัยที่ 8 มาครอบครองได้สำเร็จ ด้วยวัย 35 ปี แถมมันเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตของชายคนนี้ที่จะได้ครอบครองรางวัลนี้ รวมไปถึงถ้วยโทรฟี่ฟุตบอลโลกที่ใครหลายคนลุ้นอยากให้ชายคนนี้ได้มาก จนในที่สุดก็สามารถครอง ถ้วยบอลโลก 2022 ประเทศกาตาร์ มาประดับบารมีให้ตัวเองได้สำเร็จจนได้ แล้วนี่น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับชายคนนี้ที่ได้ไปร่วมเล่นบอลโลก
วันที่ 31 ตุลามคม 2023 ในวันประกาศผลรางวัล บัลลงดอร์ โดยผลมันก็ออกมาในแบบที่คนทั่วโลกแฟนบอลหวังคาดการณ์ไว้กัน ซึ่งได้ทำคะแนนนำโด่งสูงปาดหน้านักเตะกองหน้าอย่าง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ จากทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ถึงแม้จะได้ 3 แชมป์ แต่มันก็ไม่สามารถสู้ ถ้วยบอลโลก กับ แชมป์ลีกเอิง
หลังจากได้รางวัลนี้มาครอง ทางด้าน adidas สปอร์เซอร์คู่ใจ Messi ก็ได้ทำแหวนทองคำ 8 วง ที่ได้ทำการแกะสลักแหวนประจำความสำเร็จเอาไว้ในแต่ละปี ถือเป็นของอันล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินได้เลย แล้วอาจจะไม่ได้สร้างแหวนเหล่านี้ให้อีกแล้วก็ได้ เพราะสถิติบัลลงดอร์นี้คงยากที่ใครจะมาทุบสถิติลงได้
ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 4 สมัย : 2005–06, 2008–09, 2010–11, 2014–15
ลาลีกา 10 สมัย : 2004–05, 2005–06, 2008–09, 2009–10, 2010–11, 2012–13, 2014–15, 2015–16, 2017-18, 2018-19
ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา 8 สมัย : 2005, 2006, 2009, 2010, 2011, 2013, 2016, 2018
ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ 3 สมัย : 2009, 2011, 2015
แชมป์โกปา เดลเรย์ 6 สมัย : 2008–09, 2011–12, 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017-18
ฟีฟ่าคลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัย : 2009, 2011, 2015
ฟุตบอลโลกอายุไม่เกิน 20 ปี 1 สมัย : 2005
เหรียญทองโอลิมปิก 1 สมัย : 2008
โคปา อเมริกา : 2021
ฟุตบอลโลก : 2022
บัลลงดอร์ 8 สมัย : 2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023
ฟิฟโปรเวิลด์ XI 15 สมัย : 2007, 2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017, 2018, 2019,2020, 2021
นักฟุตบอลแห่งปี 2 สมัย : 2011, 2015
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก FIFA World Cup Golden Ball 1 สมัย : 2014
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมฟุตบอลโคปา อเมริกา Copa América Golden Ball : 2015, 2021
รางวัลรองเท้าทองคำ FIFA Club World Cup 1 สมัย : 2014
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม Golden Boy 1 สมัย : 2005
นักกีฬานานาชาติยอดเยี่ยม 2 สมัย
นักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม Marca Leyenda 1 สมัย
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี ยุโรป 2 สมัย
รองเท้าทองคำ ยุโรป 4 สมัย
นักบอลแห่งปี ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 1 สมัย
ทีมแห่งปีของ ยุโรป 8 สมัย
ผู้ยิงประตูสูงสุดใน ลาลีกา 5 สมัย
สถิติสูงสุดตลอดกาลสำหรับการยิงประตูใน 1 ปีปฏิทิน
เจก พีค็อก นักชกมวยไทยที่กำลังน่าจับตามองในเวลานี้ ด้วยร่างกายที่มี แขนเดียว กับ แขนครึ่งท่อน ทำให้หลายคนมองว่าเขาน่าจะเสียเปรียบคู่ต่อสู้แน่ แต่ที่ไหนได้เขามีจังหวะการเข้าต่อยดี สามารถปล่อยอาวุธออกมาได้สวยงาม...[...]
กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย นักมวยไทยที่มีท่าไม้ตายพร้อมจัดการคู่ต่อสู้ด้วยท่าไม้ตาย ซ้ายอุกกาบาต ฉายานี้เท่มาก เพราะเจ้าตัวมีพลังหมัดซ้ายรุนแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ที่โดนตัดลำตัวหน้าทองต้องทรุดน็อกแทบทุกราย...[...]
Jayden danns (เจย์เดน อเล็กซานเดอร์ แดนส์) เด็กหนุ่มดาวรุ่งหัวฟูแห่งยอดทีม ลิเวอร์พูล กำลังฉายแววความเก่งของตัวเองให้คนทั่งโลกได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดสามารถลงสำรองไปเอาชนะยอดทีม เชลซี ลงได้สำเร็จในรายการ คาราบาวคัพ...[...]
Jonathan haggerty (โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี) นักกีฬามวยไทย จากประเทศอังกฤษ โดยตัวเขากำลังได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั่วโลก ด้วยฝีมือการต่อยฝึกซ้อมมวยมาตั้งแต่เด็ก แล้วเขายังรักวิชามวยไทยมากด้วย โดยในตอนนี้เขาเป็นนักกีฬา One Championship เนื้อหอมมากที่สุด...[...]
สมิงดำ ลูกสวน นักมวยไทย ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเวที ONE ลุมพินี ที่มีการต่อยดุดัน กล้าแลกหมัดคู่ต่อสู้ได้อย่างสนุก แถมเขายังฐานแฟนคลับมากยิ่งขึ้นในไทย ทำให้เวลานี้ สมิงดำ มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย...[...]
©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.
