เจสซี่ ลินการ์ด (Jesse Lingard) เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 1992 ที่เมือง วอร์ริงตัน ประเทศ อังกฤษ เขาคือเด็กชายที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอลและมีเลือดปีศาจแดงไหลเวียนอยู่ในร่างกายตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนที่จะมีโอกาสได้เข้ามาทดสอบฝีเท้าและเข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนในศูนย์ฝึกอคาเดมี่ของ แมนยู ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ
ในวัยเด็ก ลินการ์ด ถือได้ว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความว่องไว เขาก็สามารถทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะเริ่มมีชื่อติดเป็นนักเตะเยาวชนที่น่าจับตามองในประเทศอังกฤษ และได้ถูกต้นสังกัดส่งตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับสโมสรในลีก แชมเปี้ยนชิพ กับทีม เลสเตอร์ ซิตี้
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2012 สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อขอยืมตัว 2 ดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด และ ไมเคิล คีน เข้ามาเสริมทัพในซีซั่น 2012-2013 ซึ่งเขาได้ย้ายเข้าไปในสโมสรแห่งนี้และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเหล่านักเตะภายในทีมในเรื่องของความกระตือรือร้นได้เป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเริ่มมีโอกาสลงประเดิมสนามในเกมที่พบกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ โดย ลินการ์ด ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทนที่ของ มาร์ติน วาจฮอร์น ในนาทีที่ 85 ก่อนจะจบเกมไปด้วยผลเสมอ 0-0
และจากผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมของ ลินการ์ด นั้น ได้เข้าไปสะดุดตาทีมงานสต๊าฟโค้ชในทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เขาได้ถูกจับขยายสัญญายืมตัวเพิ่มออกไปอีกทันที แต่ต่อมาไม่นานสักเท่าไหร่โชคชะตาก็เหมือนจะเล่นตลกกับเขา เพราะเจ้าตัวต้องพบกับอาการบาดเจ็บก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับมาที่ แมนฯยูไนเต็ด เพื่อทำการรักษาและเรียกความฟิตให้กลับมาเป็นเช่นเดิมให้จงได้
ก่อนที่ในช่วงปรีซีซั่น ปี 2013 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะตัดสินใจนำเขาไปเรียกความมั่นใจ ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้บรมกุนซือต้องผิดหวัง เพราะ ลินการ์ด สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลาที่เขาได้ลงไปเล่น ก่อนที่หลังจากกลับมาจากการทัวร์เขาถูกส่งตัวให้ย้ายไปเล่นกับสโมสร เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในทันที
หลังจากที่ เจสซี่ ลินการ์ด โชว์ฟอร์มการทำประตูในช่วงการเล่นปีซีซั่นช่วยให้ต้ยสังกัดอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะได้อย่างมากมาย ส่งผลให้ทางด้านของสโมสร เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่กำลังต้องการจะทำทีมเพื่อจะก้ายขึ้นไปเล่นบนลีกสูงสุดไม่รอช้า รีบยื่นข้อเสนอขอยืมตัวดาวรุ่งรายนี้เข้ามาเสริมทีมทันทีในช่วงเดือน กันยายน ปี 2013 ซึ่งที่ เบอร์มิงแฮม นี้เปรียบเสมือนเป็นอีกหนึ่งสโมสร ที่ปลุกปั้นตัวของ ลินการ์ด ขึ้นมา โดยเขาได้ถูกส่งลงสนามไปทั้งสิ้น 13 เกม และทำไปได้ถึง 6 ประตู ถือได้ว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่พีคมากๆ ของดาวรุ่งรายนี้เป็นอย่างมาก แถมเจ้าตัวยังสามารถพาทีมเข้าไปเล่นเกมเพลย์ออฟในแมตช์ชิงแชมป์ ถึงแม้ว่าผลสรุป เบอร์มิงแฮม จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องเล่นในศึก แชมเปี้ยนชิพ ต่อไปก็ตาม
และหลังจากที่จบซีซั่นที่สุดน่าประทับใจของ ลินการ์ด ไปแล้วด้วยผลงานที่สุดยอดของเจ้าตัว เขากลับมาที่ แมนยู ด้วยความหวังที่ว่าจะสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว แต่ด้วยช่วงเวลานั้น ทัพปีศาจแดง เต็มไปด้วยนักเตะในระดับซุปเปอร์สตาร์อย่างมากมาย ทำให้เขาจึงถูกปล่อยยืมอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ ลินการ์ด ได้ย้ายไปเล่นให้กับ สโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน
เจสซี่ ลินการ์ด กลับมาจากการยืมตัวกับทางสโมสร เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมและหวังว่าตนเองจะมีชื่อติดอยู่เป็นหนึ่งในขุนพลที่จะได้สู้ศึก พรีเมียร์ลีก กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในเวลานั้น ทัพผีแดง คือทีมที่มีแข้งในระดับซุปเปอร์สตาร์ที่มีประสบการณ์อยู่บนเวทียุโรปเป็นจำนวนมาก ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปเล่นให้ศึก แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง โดยในครั้งนี้เขาถูกส่งตัวไปเล่นให้กับทีม ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน
ซึ่งเหตุผลที่ ไบรท์ตัน ตัดสินใจเลือกที่จะยืม ลินการ์ด มาใช้งานนั้นเป็นเพราะว่า เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เจสซี่ ลินการ์ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากผลงานการลงสนามไปทั้งหมด 13 เกม และทำไปได้ถึง 6 ประตู แถมยังสามารถพาทีม เบอร์มิงแฮม ก้าวไปถึงเกมเพลย์ออฟตัดสินเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่น พรีเมียร์ลีก นั่นจึงทำให้ เจสซี่ ลินการ์ด นักเตะที่ ไบรท์ตัน เลือกที่จะนำเข้ามาพัฒนาทีม
โดยการย้ายเข้ามาเล่นให้กับ ไบรท์ตัน ของ ลินการ์ด นั้นถือได้ว่าเขาเข้ามาเป็นกำลังสำคัญและได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาลงเล่นช่วยทีมไปทั้งหมด 15 เกม และทำไปได้อีก 3 ประตู ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถพา ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ แต่ ลิการ์ด ก็สามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองได้เป็นอย่างมากในวงการฟุตบอลอังกฤษเลยทีเดียว ก่อนที่ในซีซั่นต่อมาเขาจะต้องเก็บกระเป๋าย้ายไปค้าแข้งที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในสัญญายืมตัวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะทำผลงานกับสโมสร ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ได้อย่างยอดเยี่ยมสักเพียงใด แต่พอกลับมาที่ แมนยู เขาก็ยังเป็นดาวรุ่งที่ยังคงต้องรอโอกาสจากผู้จัดการทีมต่อไป ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องโหยหาโอกาสในการลงสนามอยู่เสมอ จน ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ให้ความสนใจในตัวเขาและได้ยื่นข้อเสนอในสัญญายืมตัวเขามาให้กับ ลินการ์ด นั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของเดินทางไปค้างแข้งให้กับทีมอื่นอีกครั้ง
ซึ่งในครั้งนี้เจ้าตัวเหมือนจะกลายเป็นนักเตะที่ได้รับบทบาทสำคัญของทีมอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการเตะฟรีคิกหรือการเตะมุม เขาก็ทำออกมาได้อย่างดี แต่ก็ไม่สามารถพาทีมขึ้นไปจบในอันดับต้นๆ ของตารางคะแนนได้ ก่อนจะถูก หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนฯยูไนเต็ด ในเวลานั้น เรียกตัวกับมารียกความฟิตเพื่อขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทันที
หลังจากที่ เจสซี่ ลินการ์ด ได้ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร เขาก็พยายามที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมให้ได้ ด้วยการขยันฝึกซ้อมและเข้าฟิตเนสอยู่เป็นประจำ จนมีชื่อติดเป็น 11 ตัวจริงอยู่เสมอ ซึ่งนั้นถือเป็นความฝันในวัยเด็กของเขาเลยทีเดียว ที่ได้เล่นในทีมชุดใหญ่ของ ทัพปีศาจแดง จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ไม่ว่าผู้จัดการทีมคนไหนจะเข้ามาบริหารทีมก็มักจะมีชื่อของ ลินการ์ด ติดอยู่เป็นหนึ่งในนักเตะแดนกลางที่พวกเขาจะเรียกมาใช้งานอยู่เสมอๆ
จนเมื่อฤดูกาล 2019-2020 ถือเป็นซีซั่นที่หนักหน่วงสำหรับ ลินการ์ด เป็นอย่างมาก เพราะทั้งเรื่องของปัญหาชีวิตที่ถาโถมเข้ามา จนส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในสนามของเขาและทำให้สื่อหลายๆ สำนักตีข่าวออกมาว่า เจสซี่ ลินการ์ด และอาจจะถูกปล่อยออกจากสโมสรในเร็ววันนี้ จนทำให้เจ้าตัวทนไม่ไหวที่จะเก็บความรู้สึกไว้ในใจตัวเองคนเดียว เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปปรึกษากับผู้จัดการทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นั่นจึงทำให้เขาเริ่มมีแรงฮึดที่จะสู้อีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มกลับมาได้รับโอกาสในการลงสนามอีกครั้ง ถึงแม้ว่าในเวลานี้เขาจะไม่ใช่นักเตะคนสำคัญของสโมสรแล้วก็ตาม แต่เมื่อเกมนัดสุดท้ายของซีซั่น 2019-2020 ที่ แมนฯยูไนเต็ด พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ มาถึงเขาก็ได้ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามไปในช่วงท้ายเกม เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา และนั่นจึงทำแฟนบอลปีศาจแดงหลายคนต้องกลับมายกย่องเขาอีกครั้ง เมื่อ เจสซี่ ลินการ์ด สามารถหลุดเขาไปทำประตูสำคัญพา แมนยู ชนะ เลสเตอร์ ไปได้ 0-2 ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาจบที่อับดับ 3 ของตารางการแข่งขั้น และได้เข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในซีซั่นหน้าอีกด้วย
เจก พีค็อก นักชกมวยไทยที่กำลังน่าจับตามองในเวลานี้ ด้วยร่างกายที่มี แขนเดียว กับ แขนครึ่งท่อน ทำให้หลายคนมองว่าเขาน่าจะเสียเปรียบคู่ต่อสู้แน่ แต่ที่ไหนได้เขามีจังหวะการเข้าต่อยดี สามารถปล่อยอาวุธออกมาได้สวยงาม...[...]
กุหลาบดำ ส.จ.เปี๊ยกอุทัย นักมวยไทยที่มีท่าไม้ตายพร้อมจัดการคู่ต่อสู้ด้วยท่าไม้ตาย ซ้ายอุกกาบาต ฉายานี้เท่มาก เพราะเจ้าตัวมีพลังหมัดซ้ายรุนแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ที่โดนตัดลำตัวหน้าทองต้องทรุดน็อกแทบทุกราย...[...]
Jayden danns (เจย์เดน อเล็กซานเดอร์ แดนส์) เด็กหนุ่มดาวรุ่งหัวฟูแห่งยอดทีม ลิเวอร์พูล กำลังฉายแววความเก่งของตัวเองให้คนทั่งโลกได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดสามารถลงสำรองไปเอาชนะยอดทีม เชลซี ลงได้สำเร็จในรายการ คาราบาวคัพ...[...]
Jonathan haggerty (โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี) นักกีฬามวยไทย จากประเทศอังกฤษ โดยตัวเขากำลังได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั่วโลก ด้วยฝีมือการต่อยฝึกซ้อมมวยมาตั้งแต่เด็ก แล้วเขายังรักวิชามวยไทยมากด้วย โดยในตอนนี้เขาเป็นนักกีฬา One Championship เนื้อหอมมากที่สุด...[...]
สมิงดำ ลูกสวน นักมวยไทย ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งเวที ONE ลุมพินี ที่มีการต่อยดุดัน กล้าแลกหมัดคู่ต่อสู้ได้อย่างสนุก แถมเขายังฐานแฟนคลับมากยิ่งขึ้นในไทย ทำให้เวลานี้ สมิงดำ มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย...[...]
©2014 SBOBETONLINE24.COM ALL RIGHTS RESERVED. POWERED BY SBOBET.