เฟร์นานโด ตอร์เรส เจ้าของฉายา “El Nino” หรือ “เอลนีโญ” ที่แปลว่าเด็ก ด้วยหน้าตาที่อ่อนกว่าวัยเลยทำให้ยอดศูนย์หน้าหมายเลข 9 รายนี้ได้รับฉายานี้มาแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ตอร์เรส เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ.1984 หรือ พ.ศ.2527 ในเมือง ฟูเอนลาบราดา ชุมชนเล็กๆ ในกรุงมาดริด ก่อนที่จะเข้าสู่อะคาเดมีของ สโมสร แอตเลติโก มาดริด ตั้งแต่เด็กด้วยวัยเพียง 5 ปี จากการผลักดันของปู่ที่เป็นแฟนตัวยงของ แอตเลติโก มาดริด

ชื่อเต็ม: เฟร์นันโด โคเซ ตอร์เรส ซานซ์

เกิด: 20 มีนาคม ค.ศ. 1984

สัญชาติ: สเปน

สูง: 183 ซ.ม. (6 ฟุต 1)

ตำแหน่ง: กองหน้า

เล่นทางการค้าแข้งนักเตะอาชีพระดับสโมสร

ตอเรส เริ่มเดินตามความเป็นฝันของตัวเองตั้งอายุได้เพียง 10 ปี ให้กับสโมสร ราโย 13 ทีมแรกในฐานะนักฟุตบอลจริงๆ ของเขา ก่อนที่จะฉายแววการเป็นศูนย์หน้าระดับโลก ด้วยการกดไปถึง 55 ประตู ให้กับ ราโย 13 ก่อนที่คว้าโควตาเข้าสู่แคมป์ฝึกหัดของ ตราหมี แอตเลติโก มาดริด ต่อมาด้วยวัยเพียง 12 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นชุดบีของทีม ตราหมี ได้สำเร็จ ก่อนที่จะอายุ 15 ปี ตอร์เรส ได้เซ็นสัญญาณเยาวชนอย่างเป็นทางการ และเริ่มสร้างตำนานของตัวเองในสายอาชีพฟุตบอล

ในปี 1999 ตอร์เรสได้รับโอกาสลงเล่นให้กับชุดใหญ่ในขณะนั้นด้วยวัยเพียง 16 ปี กดไปทั้งสิ้น 91 ประตู จากการลงเล่น 244 นัด ตลอด 7 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2000-2007 ก่อนที่หนึ่งในบิ๊กโฟร์จากเกาะอังกฤษขณะนั้นอย่าง ลิเวอร์พูลต้องการดึงตัวไปรวมทัพ ก่อนจะตกลงราคากันได้ที่ 26.5 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าเป็นค่าตัวที่สูงลิบในขณะนั้น และเจ้าของฉายา เอนีโญ ก็ไม่ทำให้พลพรรคเดอะค็อป ผิดหวัง ภายใต้ยูนิฟอร์มใหม่ของเจ้าตัวในฤดูกาลแรก ก็จัดการซัดไปถึง 33 ประตู จากการลงเล่นเพียง 46 นัด ตอร์เรส กลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลลิเวอร์พูลอย่างรวดเร็ว ตลอดที่ลงเล่นให้กับหงค์แดงใน 4 ฤดูกาล สามารถทำประตูได้ถึง 81 ประตูใน 142 นัด ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายเข้าสู่ทีมยักษ์ใหญ่จากลอนดอนอย่าง เชลซี ในปี 2010 ด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 50 ล้านปอนด์ แต่ผลงานไม่เป็นอย่างที่แฟนๆ คาดหวัง ซึ่งสวนทางกับสมัยค้าแข้งกับสมัยลิเวอร์พูลอย่างชัดเจน เขาทำได้เพียงแค่ 45 ประตู จากการลงสนาม 172 นัด แต่สิ่งหนึ่งที่เขาได้จากเชลซี คือ ความสำเร็จในระดับสโมสรสุดๆ หลังเขาสามารถพาเชลซีความ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับสิงห์บลูได้ในฤดูกาล 2011-2012 และ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2012-2013 ก่อนที่จะถูกส่งให้สโมสรปีศาจแดง-ดำ เอซี มิลาน ยืมตัว แต่เพียงครึ่งฤดูกาล ตอร์เรสก็ได้กลับบ้านเก่าอย่าง แอตเลติโก้ มาดริด ในปี 2014 และช่วยให้ทีมตราหมี สามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาล 2015-2016 แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับทางอริร่วมเมืองอย่าง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ก่อนที่จะคว้าแชมป์ ยูโรป่า ลีก กับทีมรักของตัวเองได้สำเร็จในอีก 2 ปีถัดมา

ผลงานระดับทีมชาติ

เรียกได้ว่าตอร์เรสมีผลงานระดับทีมชาติที่สมบูรณ์แบบมากๆ เขาสามารถช่วยให้ทีมชาติของเขาสามารถ ผงาดคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรกได้สำเร็จในปี 2010 ที่ แอฟริกาเป็นเจ้าภาพ แต่ก่อนหน้านั้น ตอร์เรสพาพลพรรคสเปนประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ ยูโร ได้ในปี 2008 ก่อนที่จะมาป้องกันแชมป์ได้อีกครั้งในปี 2012 ทำให้เป็นทีมชาติในทวีปยุโรปทีมเดียวที่สามารถป้องกันแชมป์ ยูโร ได้สำเร็จ

รางวัลความสำเร็จ

– FIFA World Cup: 2010

– UEFA European: 2008,2012

– UEFA Champion League: 2011-2012

– UEFA Europa League: 2017-2018

– FA Cup: 2011-2012

– UEFA Euro Golden Boot: 2012

– FIFA Confederations Cup Golden Shoe: 2013