คริสเตียน พูลิซิช (Christian Mate Pulisic) เกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ.1998 ชาวอเมริกัน เกิดที่เมืองเฮอร์ชีย์ รัฐเพนซิลเวเนีย  นับว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดนักฟุตบอลอันดับ 1 จากประเทศอเมริกาในเวลานี้ และเป็นความหวังของคนทั้งประเทศที่คาดหวังให้เขาพาทีมชาติประเทศความสำเร็จ เขาลงเล่นแนวรุกในตำแหน่ง กองกลางตัวรุก / ปีก พูลิซิช มีจุดเด่นในด้านความคล่องตัว รวดเร็ว ครองบอลได้ดี เล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา สร้างความอันตรายให้แนวรับแก่ทีมฝั่งตรงข้ามอย่างมาก ปัจจุบันเล่นให้กับ สโมสรเชลซี และ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา

เริ่มต้นอาชีพฟุตบอลด้วยวัยเพียง 7 ขวบ

พูลิซิชในวัย 7 เริ่มเล่นฟุตบอลและฝึกฝนฟุตบอล กับศูนย์ฝึกฝน PA Classics

มีช่วงนึงที่ พูลิซิช ต้องมาอาศัยอยู่ที่ ประเทศอังกฤษ ตอนเขาอายุ 7 ขวบ เป็นระยะเวลาหนึ่งปีด้วยกัน เขาลงเล่นในทีมเยาวชนของ Brackley Town ในปี 2005-2006 ก่อนที่จะกลับไปอาศัยอยู่ที่รัฐมิชิแกน และลงเล่นให้กับ Michigan Rush 2006-2007 เพียงหนึ่งปี เขาก็ไปย้ายไปอาคาเดมี่ PA Classics ในปี 2008-2015 ที่นั้นเขาอยู่ยาวร่วมถึง 7 ปี ก่อนที่เขาจะเดินทางสู่โลกฟุตบอลอย่างเต็มตัว ด้วยการย้ายเข้าสู่ยุโรปในอายุ 16 ปี กับการย้ายเข้าร่วมทีมเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund)

การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของ พูลิซิช กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

พูลิซิช ย้ายเข้าสู่ ดอร์ทมุนด์ ด้วยอายุเพียง 16 ปี เริ่มต้นลงเล่นในทีมเยาวชน U16 ของทีม

หลังจากเข้าร่วมทีมเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชุดเยาวชน U17 ในปี 2015 ด้วยอายุเพียง 16 ปี ก่อนที่จะก้าวมาเล่นในชุด U19 เพียงปีเดียว เขาก็ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว เขาลงเล่นในชุดเยาวชนไปเพียง 15 เกมเท่านั้น

ในเดือนมกราคมปี 2016 เขาลงเล่นนัดกระชับมิตร ก่อนที่จะสตาร์ทเป็นตัวจริงทีมชุดใหญ่ ในวันที่ 24 มกราคม ในนัดกระชับมิตรเจอกับ Union Berlin พูลิซิช ลงเล่น 90 นาทีเต็ม เขาทั้งยิงทั้งจ่ายในแมตช์นั้น

เปิดตัวครั้งแรกกับทีมชุดใหญ่ ดอร์ทมุนด์ กับแมตช์อย่างเป็นทางการ

วันที่ 30 มกราคม 2016 ในเกมที่ ดอร์ทมุนด์ ต้องพบกับ เอฟซี อิงโกลสตาดท์ พูลิซิช ได้ถูกเปลี่ยนเป็นตัวสำรองลงมาในครึ่งหลัง และนั้นเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการของเขากับ ดอร์ทมุนด์ ครั้งแรก โดยในนัดนั้นจบด้วยการที่ทีมของเขาเอาชนะไปได้ 2-0

ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พูลิซิช ได้รับโอกาสลงเล่นในถ้วยระดับยุโรปอย่าง ยูฟ่า ยูโรปาลีก ละนั้นเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเขาในถานะการแข่งขันถ้วยฟุตบอลระดับยุโรป เขาถูกส่งลงเป็นตัวรองครึ่งหลัง ก่อนที่จะคว้าชัยเหนือ เอฟซี ปอร์โต ไปด้วยสกอร์ 2-0

หลังจากนั้น พูลิซิช ก็ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในเกมที่ต้องเจอกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และ ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งในวันที่ 10 เมษายน กับเกมที่เจอกับ เอฟซี ชาลเก้ 04 โดยฟอร์มของพูลิซิชสุดยอดมาก จนผู้จัดการทีมของเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์ ในเวลานั้น อย่าง โธมัส ทูเคิล (Thomas Tuchel) ออกปากชมว่า “เขายังเป็นดาวรุ่ง เขายังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขา เราดีใจมากๆ และเขามีค่ากับพวกเราในเวลานี้”

พูลิซิช ทำประตูแรกในบุนเดสลีกา กับ ดอร์ทมุนด์ ในเกมที่เจอกับ ฮัมบูร์ก เอสวี ส่งผลให้เขากลายคนเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดคนแรกที่ทำประตูได้ และ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในบุนเดสลีกาอันดับที่ 4 ที่ทำประตู ด้วยอายุเพียง 17 ปี 212 วันเท่านั้น ต่อมาในวันที่ 23 เมษายน พูลิซิช ก็ยังสามารถทำลายสถิติได้อีก ด้วยการเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูได้ 2 ประตูในเกมเดียว โดยในนัดนั้นเขาพบกับ สตุตการ์ต และเป็นเกมกันกับที่เขาได้ใบเหลืองในบุนเดสลีกา จากการไปทำฟาล์ว เอมิเลียโน่ อินซัว

นอกจากนี้พูลิซิชยังทำลายสถิติกับ ดอร์ทมุนด์ มากมาย อาทิเช่น ในศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เชาเป็นนักเตะของ ดอร์ทมุนด์ ที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของเสือเหลือง ที่ทำประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับเกมที่เจอกับ เบนฟิก้า พวกเขาเอาชนะไปได้ 4-0

เดินทางสู่ความท้าทายใหม่กับเวทีพรีเมียร์ลีก

ย้ายเข้าสู่เชลซีในปี 2019 หลังจากอยู่กับดอร์ทมุน 4 ฤดูกาล

และแล้วก็ถึงวันที่พูลิซิชย้ายออกจากอ้อมอกของ เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ความจริงแล้ว พูลิซิช ได้รับความสนใจจากยอดทีมทั่วยุโรปมาหลายปีแล้ว แต่ด้วยทางที่ต้นสังกัดไม่สามารถหาตัวแทนของ พูลิซิช ได้ ทำให้เขาต้องอยู่ช่วยสโมสรต่อไป และในวันที่ 2 มกราคม 2019 ทางดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจขาย ให้เชลซี ด้วยค่าตัว 58 ล้านปอนด์ หลังพวกเขามีอีกสุดยอดนักเตะขึ้นมาแทนที่ อย่าง จาดอน ซานโช่ แต่มีข้อแม้ว่าพวกเค้าจะขอยืมตัว พูลิซิช ใช้งานจนจบฤดูกาล

เหตุผลหนึ่งที่ พูลิซิช ย้ายเข้าสู่ เชลซี เพราะเขาชื่นชอบ เอเดน อาซาร์ อย่างมาก และหวังจะได้เล่นเคียงคู่กับ อาซาร์ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พูลิซิช ได้ถูกวางตัวให้เป็นตัวแทนของ อาซาร์ มาทั้งแต่แรก ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้ตัวมา เชลซี เลยจำเป็นต้องขาย อาซาร์ ให้กับ เรอัล มาดริด ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับนักเตะ

ปีแรกของ พูลิซิช กับ สิงบลูเชลซี

1หลังจากเขาย้ายมายัง เชลซี พูลิซิช ต้องการสร้างความประทับใจให้แก่ผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ด้วยการลดวันหยุดฤดูร้อนของตัวเอง เพื่อเข้าร่วมซ้อมปรีซีซั่น กับทีมให้ไวที่สุด ก่อนในวันที่ 11 สิงหาคม 2019 พูลิซิช จะได้ลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีก กับ เชลซี ในนัดที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ก่อนที่เกมนั้น เชลซีจะแพ้ไปถึง 4-0 นับว่าเป็นการเปิดตัวไม่สวยของเขากับต้นสังกัดใหม่เท่าไหร่

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พูลิซิช สามารถทำประตูแรกกับเชลซีและเป็นแฮตทริกแรกในชีวิตของเขา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2019 ในเกมที่เจอกับ เบิร์นลีย์ พวกเขาเอาชนะไป 4-2 โดย พูลิซิช เหมาคนเดียว 3 ประตู และนับว่าเป็น “perfect hat-trick” เนื่องจากเขาสามารถทำประตูได้ทั้ง เท้าซ้าย เท้าขวา และศีรษะ รวมถึงยังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของเชลซี ที่สามารถทำแฮตทริกได้อีกด้วย นอกจากนี้เขายังทำประตูแรกกับเชลซีในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่เสมอกับ บาเลนเซีย 2-2 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2019

แต่ถึงอย่างไรก็ตามน่าเสียที่ พูลิซิช พกเอาอาการบาดเจ็บจากสมัยอยู่ ดอร์ทมุนด์ มาด้วย เพราะตลอดฤดูกาล 2019-2020 เขาลงเล่นให้กับ เชลซี ไปเพียง 23 นัดเท่านั้นจากทุกรายการ เรียกได้ว่า พูลิซิช มีร่างกายที่เปราะบางและเจ็บง่าย ยิ่งต้องมาเจอการเล่นที่หนักหน่วงของศึกพรีเมียร์ลีก ทำให้เขาต้องเจอลูกหนักบ่อยๆ

รู้หรือไม่ พลูลิซิช มี เอเดน อาซาร์ เป็นไอดอล

คริสเตียน พูลิซิช ยกให้ เอเดน อาซาร์ เป็นไอดอลด้านการฟุตบอลของเขา

แน่นอนว่าแม้ พูลิซิช คือ ทายาทของ อาซาร์ ในถิ่นสิงบลู แต่เขามีความต้องการที่จะลงเล่นเคียงคู่อาซาร์ เนื่องจากเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ที่เราเห็นว่า เอเดน อาซาร์ สามารถทำอะไรได้บ้าง เขาคือนักฟุตบอลที่ผมอยากเอาเป็นแบบอย่าง เขาเป็นเป้าหมายของผม สำหรับการเล่นฟุตบอล และมันคงโง่มากหากไม่ย้ายไปร่วมทีมเดียวกันกับเขา” แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน เมื่อ พูลิซิช ย้ายมาเชลซี อาซาร์ ก็ย้ายไปเรอัล มาดริด ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้เล่นคู่กัน