บนเกาะอังกฤษสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จจำนวนไม่น้อย สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (Arsenal Football Club) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ที่ใครๆต่างให้การจับตามอง เพราะว่าเป็นทีมที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 13 ครั้ง และ เอฟเอคัพ 13 ครั้ง นอกจากนี้ยังเข้าชิงชนะเลิศในเอฟเอคัพมากที่สุด และ อยู่บนลีกสูงสุดยาวนานที่สุดเพราะหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 อาเซน่อลไม่เคยตกชั้นอีกเลย การเล่นฟุตบอลในสโมสรแห่งนี้เป็นที่คาดหวังของนักเตะอีกหลายๆคนด้วยกัน

สโมสรฟุตบอลอาเซนอล ในอดีตเป็นสถานที่สำหรับการผลิตอาวุธ ก่อตั้งในปี 1886 จากเงิน 6 เพนซ์จากคนจำนวน 15 คน ที่รอยัลโอ๊คผับ แต่เดิมใช้ชื่อ ไดอัล สแควร์  เป็นการเริ่มต้นของตำนานปืนใหญ่  ด้วยการคว้าชัยชนะ เหนือทีมอีสเทิร์น วันเดอเรอร์ส ด้วยสกอร์ 6-0 ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น รอยัล อาร์เซน่อล การเดินทางของสโมสรมาสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง และในปี 1891ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น วูลิช อาร์เซน่อล เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกเป็นครั้งแรกในปี 1893 จากนั้นไม่นานสโมสรประสบปัญหาทางด้านการเงินเพราะมีผู้ชมน้อยกว่าสโมสรอื่น  จนเป็นให้นำไปสูการยุบทีมในช่วงปี 1910 เฮนรี นอร์ริสได้เข้ามาเทคโอเวอร์และพยายามที่จะฟื้นฟูทีมขึ้นมาใหม่ ด้วยการย้ายที่ตั้งแต่สนามเหย้าไปอยู่ที่ไฮบิวรี่ (สนามเดิมของอาเซนอลก่อนจะย้ายไปเอมิเรตส์สเตเดียม) การเปลี่ยนชื่อครั้งสุดท้ายด้วยการตัดชื่อ วูลิช ออกและเหลือเพียง อาร์เซนอล เท่านั้น

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี 1918 ลีกดิวิชั่น 1 มีจำนวนทีมทั้งหมด 22 ทีม อาร์เซน่อลอยู่ในลำดับที่ 5 ของ ดิวิชั่น 2 แต่ยังได้รับการเลื่อนชั้นให้มาอยู่ ดิวิชั่น 1

ตั้งแต่ปี 1919 หลังจากการขึ้นดิวิชั่นของทีมอาเซน่อลก็ไม่เคยตกชั้นอีกเลย

อาร์เซนอลมีทีมคู่ปรับร่วมเมืองในนอร์ทลอนดอน คือทอตนัมฮอตสเปอร์ นอกจากนี้ยังเป็นทีมที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 รองจาก ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ถึง 4 ครั้ง

หน้าประวัติศาสตร์สโมสรอาเซนอล

อาเซนอลในยุคเริ่มต้นและเฮอร์เบิร์ต แชปแมน (1886-1934)

ปี 1886 ก่อตั้งทีมฟุตบอลของกรุงลอนดอน  ไดอัล สแควร์ และ เปลี่ยนชื่อเป็น รอยัลอาร์เซนอล

ปี 1891 เปลี่ยนชื่อเป็น วูลิช อาร์เซนอล

ปี 1910 ล้มละลาย ตกไปอยู่ดิวิชั่น 2

ปี 1919 กลับขึ้นสู่ดิวิชั่น 1

ปี 1930 เฮอร์เบิร์ต แชปแมน พาอาเซนอลได้ COMMUNITY SHIELD และ FA CUP เป็นครั้งแรก

ปี 1931 เฮอร์เบิร์ต แชปแมน พาอาเซนอลได้แชมป์ LEAGUE สูงสุดครั้งแรก

ปี 1933 คว้าแชมป์ลีก และ สร้าง Gillespie Road เป็นสถานีรถไฟใต้ดินของอาร์เซนอล และยังเป็นสถานีรถไฟใต้ดินเพียงแห่งเดียวที่ตั้งชื่อตามสโมสรฟุตบอล

ปี 1934 เฮอร์เบิร์ต แชปแมนตายกะทันหันด้วยโรคปอดบวม

อาเซนอลในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2  โจ ชอว์ และ จอร์จ อัลลิสัน  (1934-1938)

ปี 1934-1938 คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และ FA CUP อีก 1 สมัย

อาเซนอลในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทอม วิทเทคเกอร์ และ บิลลี ไรท์ (1946-1966)

ปี 1948 ทอม วิทเทคเกอร์ พาอาเซน่อลได้แชมป์ลีกอีกครั้ง

ปี 1953 แชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้ายของช่วงยุคนี้

อาเซนอลในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง (1966-1986)

ปี 1970 คว้าแชมป์อินเตอร์ซิตี้แฟร์สคัพ

ปี 1979 คว้าแชมป์ FA CUP ด้วยการเอาชนะแมนยู 3-2 และกลายเป็นแมทซ์ที่คลาสสิกอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์

อาเซนอลในยุค จอร์จ แกรแฮม  และ บรูซ ริออช (1986-1996)

ปี 1986-1993  จอร์จ แกรแฮม นำทีมอาเซน่อลคว้าแชมป์ 3 สมัย และ FA CUP อีก 1 สมัย

ปี 1994 จอร์จ แกรแฮมรับเงินสินบนในการซื้อตัวนักเตะ

ปี 1995 จอร์จ แกรแฮมถูกปลด บรูช ริออชเข้ามาคุมทีมแทน

อาเซนอลในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ (1996-2018)

ปี 1998 คว้าดับเบิลแชมป์

ปี 2002 คว้าดับเบิลแชมป์

ปี 2004 เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยไร้พ่าย ติดต่อกันสูงสุด 49 นัด (The Invincibles)

ปี 2006 สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกจากกรุงลอนดอนที่สามารถรอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปได้ในรอบ 15 ปี

ปี 2012 ครอบรอบ 20 ปี ประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ทีม The Invincibles ของอาเซนอล ถูกโหวตให้เป็นทีมที่ดีที่สุดจากแฟน ๆ ฟุตบอล

ปี 2012 ครบรอบ 125 ปีแห่งการก่อตั้ง มีการออกแบบโลโก้ใหม่ในปีนี้ (เฉพาะปี 2011-12)

ปี 2014 คว้าแชมป์ FA CUP  และ เป็นทีมที่ได้แชมป์ FA CUP (ก่อนจะถูกแมนยูตามทันในปี 2016)

ปี 2017 กลับมาคว้าแชมป์ FA CUP และ กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ FA CUP มากที่สุดเพียงสโมสรเดียว

อาเซนอลในยุคปัจจุบัน

ปี 2018 อูไน เอเมรี เอตเชโกเยน รับหน้าที่ผู้จัดการทีม

สนามกีฬาของสโมสรอาเซนอล

สนามเหย้าแห่งเดิมของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลมีชื่อว่าไฮบิวรี่ มีชื่อเล่นว่า ไฮบรี อยู่ในย่านไฮบรี ลอนดอนเหนือ มีชื่อเล่นว่า บ้านของฟุตบอล ปัจจุบันกำลังสร้างให้กลายเป็นอาคารที่พักอาศัย

ปี 1913 เปิดใช้งานสนามฟุตบอลไฮบิวรี่

ปี 2004 ก่อสร้างสนามเอมิเรตส์สเตเดียมด้วยเงิน 430 ล้านปอนด์

ปี 2006 ย้ายสนามเหย้ามาที่เอมิเรตส์สเตเดียม

ปัจจุบัน สามารถเข้าชมได้ 60,355 คน ในประเทศอังกฤษเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่รองจากสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เท่านั้น

สถิติอื่นๆที่น่าสนใจของสโมสรอาเซน่อล

อาร์เซน่อลเป็นสโมสรของประเทศอังกฤษ ที่ได้แชมป์ลีกติดต่อกัน 3 ครั้ง ได้แก่  1932-33, 1933-34, 1934-35

ปี 1999 สำนักข่าวบีบีซีให้เป็นทีมอาเซน่อลเป็นทีมฟุตบอลอังกฤษที่ดีที่สุดของอังกฤษในรอบ 100 ปี โดยพิจารณาจากสถิติและปัจจัยอื่นๆ (ลิเวอร์พูล อันดับ 2 และ เอฟเวอร์ตัน อันดับ 3)

พรีเมียร์ลีกปี 2001/02 ทำประตู เป็นสถิติสูงสุดของลีก ชนะติดต่อกัน 14 นัด (สถิติสูงสุดก่อนทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้จะทำลายไปเมื่อ 2017/18)

พรีเมียร์ลีกปี 2003/04 อาร์เซนอลทำสถิติไม่แพ้ใครตลอดฤดูกาล ครั้งแรกของพรีเมียร์ลีก (ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษก่อนหน้านี้มีเปรสตัน นอร์ธเอนด์ แต่แข่งขันเพียง 22 นัด)

ทีมอาร์เซนอลผู้ไร้เทียมทานฤดูกาล 2003/04 แฟนฟุตบอลโหวตให้ทีมอาเซน่อล เป็นสโมสรที่ดีที่สุดในวันครบรอบ 20 ปีพรีเมียร์ลีก อันดับที่ 2 เป็นทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทริปเปิลแชมป์ฤดูกาล 1998/99

ฟุตบอลในวัฒนธรรมร่วมสมัยของอาเซน่อล

ในปี 2007 ภาพยนตร์อังกฤษเรื่อง  Goal II: Living the Dream ทีมอาเซน่อลถูกกล่าวถึงว่าเป็นคู่ชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกกับ เรอัล มาดริด (นักฟุตบอลตัวจริงร่วมแสดง ได้แก่ ตีแยรี อ็องรี, เดวิด เบคแคม, ซีเนดีน ซีดาน)

ในปี 2017 ภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง  Because This Is My First Life  นางเอกเป็นแฟนฟุตบอลทีมอาเซน่อล ดูเกมแข่งขันระหว่างทีมอาเซน่อลกับทีมเชลซี พร้อมกับพระเอก

อาเซน่อลกับฟุตบอลในประเทศไทย

อาเซน่อลเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชาวไทยให้การสนับสนุน และ มาแข่งขันที่ประเทศไทยเพียงครั้งเดียว ได้แก่

วันที่ 22 พฤษภาคม 1999 ทีมสโมสรฟุตบอลอาเซน่อลแพ้ ทีมชาติไทย 3-4